พ่อแม่เตรียมรับมือเพื่อลูกน้อย

ฝนตกทุกวัน ในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ต้องระวังลูกน้อยอาจเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากไวรัส RSV และ โรคมือ เท้า ปาก ที่กำลังระบาดอยู่ ให้ดี

เราเข้าใจดีว่าคุณพ่อคุณแม่คงกังวลใจ ไม่ว่าลูกน้อยจะเจ็บป่วยด้วยโรคอะไรก็ตาม แต่หากเราสามารถรู้จักและหาวิธีรับมือโรคนั้นก่อนได้ก็ถือว่ามีแต้มต่อ เรามาทำความรู้จัก 2 โรคระบาดในเด็กยอดฮิตกันเลย

 

1. โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากไวรัส RSV

เป็นโรคที่พบระบาดบ่อยในเด็กเล็กและเด็กเล็กวัยเรียน พบบ่อยในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่ชื่อว่า Respiratory Syncytial Virus (RSV) ซึ่งไวรัสชนิดนี้ ก่อให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง และมักมีการระบาดของโรคทุกปีในช่วงปลายฝนต้นหนาว

การแพร่ติดต่อของโรค

เด็ก ๆ มีโอกาสติดเชื้อไวรัส RSV ได้ โดยติดต่อผ่านทางการหายใจเอาละอองเสมหะของผู้ป่วยที่ติดเชื้อหรือสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่ง เช่น ของเล่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น หลังจากที่ได้รับเชื้อไวรัส RSV มาแล้วจะแสดงอาการได้เร็วที่สุดหลังติดเชื้อประมาณ 2 วัน และช้าที่สุดประมาณ 8 วัน แต่โดยเฉลี่ยส่วนใหญ่จะแสดงอาการหลังจากรับเชื้อประมาณ 4 - 6 วัน

อาการของโรค RSV จะคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป เช่น มีไข้ ไอ-จาม คัดจมูก มีน้ำมูก แต่ในเด็กกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 1 - 2 ปี ซึ่งภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง รวมถึงเด็กที่คลอดก่อนกำหนด และเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ อาจมีอาการรุนแรง และมีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างได้ (หลอดลมฝอยอักเสบ ปอดอักเสบ) รวมไปถึงถ้าเชื้อลงไปที่ลำไส้ก็จะมีอาการท้องเสีย โดยมักมีอาการไข้สูง ไอมาก หอบเหนื่อย หายใจเสียงหวีด ซึ่งบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนจนทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และมีโอกาสเสียชีวิตได้

วิธีป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส RSV

  • ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนมื้ออาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ นอกจากนี้ผู้ใหญ่ควรล้างมือก่อนและหลังการสัมผัสเด็กเล็กที่ป่วย
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อ และการไปในสถานที่ที่ผู้คนหนาแน่น
  • หมั่นทำความสะอาดบ้าน และพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิด ของเล่นเด็ก และไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
  • รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ดื่มน้ำที่สะอาด และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด และ ไอ จาม ให้ถูกวิธี

พ่อแม่ผู้ปกครองต้องสังเกตอาการลูกหลานอย่างใกล้ชิด หากป่วยแล้วควรหยุดอยู่บ้านก่อนจนกว่าจะหาย เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อออกไปสู่คนอื่น

 

2. โรคมือ เท้า ปาก (Hand, Foot and Mouth)

เกิดจากเชื้อไวรัสลำไส้หรือไวรัสเอนเทอโร (Enterovirus) หลายชนิด  พบได้บ่อยในกลุ่มเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคมีโอกาสเกิดได้ประปรายตลอดปี แต่จะเพิ่มมากขึ้นในหน้าฝน ซึ่งอากาศมักเย็นและชื้น   โดยทั่วไปโรคนี้มีอาการไม่รุนแรงและไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่เชื้อไวรัสบางชนิดอาจทำให้มีอาการรุนแรงได้  จึงควรสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด โดยควรเช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะ และให้หยุดเรียนรักษาตัวที่บ้านประมาณ  7  วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ หากพบว่ามีไข้สูง ซึม ไม่ยอมทานอาหารและดื่มน้ำ อาเจียนบ่อย  หอบ  แขนขาอ่อนแรง  อาจเกิดภาวะสมองหรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือน้ำท่วมปอด  ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้  ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที

การแพร่ติดต่อของโรค

ส่วนใหญ่เกิดจากได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ปากโดยตรง โรคแพร่กระจายและติดต่อได้ง่ายในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย  โดยเชื้อไวรัสอาจติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล  หรืออุจจาระของผู้ป่วย  และอาจเกิดจากการไอจามรดกัน  นอกจากนั้นในระยะที่เด็กมีอาการทุเลาหรือหายป่วยแล้วประมาณ 1 เดือน ก็ยังสามารถพบเชื้อในอุจจาระได้  แต่การติดต่อในระยะนี้จะเกิดขึ้นได้น้อยกว่า

อาการของโรค

อาการที่เห็นชัด คือ มีตุ่มแผลในปากหรือในคอ มีผื่นแดงหรือตุ่มใสที่มือ เท้า ตามตัว หรือรอบทวารหนัก ประกอบกับการมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ อาเจียน ถ่ายเหลว มักระบาดในช่วงฤดูฝน ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัว คือ เมื่อพบว่าลูกเป็นโรคมือ เท้า ปาก ต้องให้หยุดเรียนและแจ้งให้โรงเรียนทราบ รวมถึงเลี่ยงการพาลูกไปสถานที่สาธารณะ โดยหลังจากได้รับเชื้อประมาณ  3 - 6 วัน จะเริ่มแสดงอาการป่วย เริ่มด้วยการมีไข้ต่ำ ๆ  อ่อนเพลีย ต่อมาอีก 1 - 2 วัน จะมีอาการเจ็บปากและไม่ยอมทานอาหาร เนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม  ตุ่มนี้จะกลายเป็นตุ่มพองใส  ซึ่งบริเวณรอบ ๆ จะอักเสบและแดง ต่อมาตุ่มจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น ๆ  จะพบตุ่มหรือผื่น (มักไม่คัน) ที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้นด้วย  อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน  7 - 10 วัน

การป้องกันโรค ทำได้โดยการรักษาสุขอนามัยให้สะอาด

  • ตัดเล็บให้สั้น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ (ด้วยน้ำและสบู่)  โดยเฉพาะหลังการขับถ่ายและก่อนรับประทานอาหาร
  • หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน  เช่น  แก้วน้ำ  หลอดดูด  ผ้าเช็ดหน้า  และผ้าเช็ดมือ  เป็นต้น และใช้ช้อนกลาง
  • หมั่นดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่ และอุปกรณ์ เครื่องใช้ ให้สะอาดอยู่เสมอ
  • ไม่ควรพาเด็ก ๆ ไปในสถานที่ที่คนพลุกพล่าน เช่น สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และห้างสรรพสินค้า
  • ผู้ดูแลเด็กต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย  หรืออุจจาระ ของเด็กที่ป่วย

 

เราขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน เตรียมพร้อมให้ดี เพื่อลดความกังวลในเรื่องการเจ็บป่วยและค่ารักษาพยาบาลของลูกน้อย จึงขอแนะนำประกันสุขภาพ AIA H&S Extra (New Standard) เพื่อเพิ่มความอุ่นใจเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะครอบคลุมค่ารักษาทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD)* รวมถึงคุ้มครองค่ารักษาโรคโควิด 19 ทุกสายพันธุ์ รวมถึงโรคอุบัติใหม่ต่าง ๆ

  • คุ้มครองตั้งแต่อายุ 15 วัน – 75 ปี ต่ออายุถึง 84 ปี
  • หากไม่เคลมมีเงินคืน**
  • เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้***


เพราะในตอนนี้ ทั้ง 2 โรคนี้ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และยังไม่มียารักษาโดยตรง จึงต้องรักษาไปตามอาการ และถ้าพบว่าลูกมีอาการ ให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจรักษาทันที

เพิ่มความอุ่นใจเรื่องสุขภาพของลูกน้อยวันนี้ คลิกด้านล่างเพื่อติดต่อตัวแทน AIA เลย

 

*เป็นผลจากการบาดเจ็บหรือการป่วยแต่ละครั้ง โดยจ่ายตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกินผลประโยชน์ต่อรอบปีกรมธรรม์ประกันภัยตามที่ระบุไว้ในบันทึกสลักหลังผลประโยชน์ ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก

**รับผลประโยชน์เงินคืนพิเศษ กรณีที่ไม่มีการเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ จากผลประโยชน์กรณีผู้ป่วยใน หรือผลประโยชน์กรณีไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน หรือผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก หรือผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต ภายในรอบปีกรมธรรม์นั้นๆ (โดยไม่มีการขาดอายุหรือยกเลิกสัญญาเพิ่มเติมนี้ระหว่างปีกรมธรรม์) รวมทั้งได้มีการชำระเบี้ยประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ถัดไปภายในระยะเวลาผ่อนผันชำระเบี้ยประกันภัย ทั้งนี้ กรณีที่ชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายเดือน ต้องชำระเบี้ยประกันภัยอย่างน้อย 3 งวดติดต่อกัน

***เบี้ยประกันภัยสุขภาพ (ถ้ามี) เฉพาะส่วนที่เข้าเงื่อนไขสามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด

หมายเหตุ :
- ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

ขอบคุณข้อมูล : ฝ่ายสินไหมประกันสุขภาพ เอไอเอ ประเทศไทย กรมการแพทย์ และ กรมควบคุมโรค

แบบฟอร์มการติดต่อ ถูกใจ 0

วิธีการติดต่อ
สนใจบทความนี้? ติดต่อกลับเพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

ข้อมูลที่จำเป็น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น

ข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ครบ 10 หลัก
อีเมล
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
รหัสประเทศ
กรูณากรอกข้อมุลรหัสประเทศให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
จังหวัด

ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เอไอเอ จำกัด และกลุ่มบริษัทเอไอเอ (เอไอเอ) สามารถเก็บใช้ข้อมูลที่ข้าพเจ้าให้ไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือกิจกรรมใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ หรือแจ้งสิทธิประโยชน์ แจ้งข้อมูลข่าวสารของเอไอเอ ติดต่อและนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ กรมธรรม์ ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนประกันชีวิต การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการเงิน (FA) หรือ AIA Life Advisor และใช้เพื่อประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล ความสนใจของข้าพเจ้าที่มีต่อการนำเสนอข้อมูลทางการตลาดเพื่อให้เอไอเอปรับปรุง และพัฒนาการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางการตลาด รวมถึงยินยอมให้เอไอเอส่งหรือโอนข้อมูลแก่พันธมิตรทางการค้า/คู่ค้า ตัวแทนประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันชีวิต (ถ้ามี) เพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกันข้างต้น
ฉันยืนยันว่าฉันได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ สามารถศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เว็บไซต์ของเอไอเอตามลิ้งค์ดังต่อไปนี้ www.aia.co.th/privacy และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ร้องขอใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (DPO) ผ่านเอไอเอคอลเซ็นเตอร์ โทร. 1581 หรืออีเมลมาที่ th.privacy@aia.com หรือติดต่อตามที่อยู่ที่ บริษัท เอไอเอ จำกัด 181 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพ 10500
ส่ง