
ผ่านมาครึ่งปีแล้ว เมื่อใช้ชีวิตมาถึงจุดหนึ่ง เราทุกคนอาจเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า จิตใจและร่างกายอ่อนแอลง หากได้พักผ่อน คงไม่ผิดที่เราจะคิดว่าการ ฮีลตัวเอง การทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาสักสองสามวัน จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น
ดังนั้นการให้เวลาเพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนบ้างจึงเป็นเรื่องสำคัญ เครื่องจักรยังมีอายุการใช้งานและความเสื่อม สมอง ร่างกายและจิตใจของคนเราก็เช่นกัน
หากรู้สึกเหนื่อยล้า ควรถอยมาพักกายพักใจ การเติมพลังให้กับหัวใจของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องหักโหมหรือว่าหักดิบจนเกินไป ค่อยปรับ ๆ บาลานซ์กับการทำงาน หรือ พฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ เริ่มง่าย ๆ ดังนี้
1. เปลี่ยนกิจวัตรแบบเดิม ๆ ลองเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่ยังไม่เคยทำ วันละอย่าง เพื่อรีเฟรชตัวเอง
2. จดบันทึกประจำวัน เพื่อให้สามารถทบทวนตัวเองตัวเองได้ และกลับมาเดินไปตามเป้าหมายที่วางไว้
3. ทำสิ่งที่อยากทำ ทำตามใจตัวเองเล็กๆ น้อย ๆ ไม่ว่าจะไปที่ที่อยากไป ซื้อของที่อยากได้อย่างเหมาะสม เพื่อชาร์จพลังให้ตัวเอง
4. เลือกพบปะผู้คนที่คิดบวก เว้นระยะห่างจากคนรอบตัวที่คิดลบ เพื่อปกป้องสุขภาพจิตของตัวเอง จาก toxic
5. ออกกำลังกายบ้าง ในแบบที่ตนเองถนัด ไม่ต้องฝืนร่างกายจนเกินไป อาจไปที่สวนสาธารณะ ฟิตเนส หรือออกกำลังกายที่บ้านก็ได้
6. ลด ละ อีโก้ เพราะบางครั้งอีโก้ทำให้เสียโอกาสบางอย่าง รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลต่อสุขภาพจิตอย่างมาก
7. ดูแลสุขภาพครบรอบด้าน ที่ wellness center ก็เป็นหนึ่งใน choice ทางเลือกที่ดี
เพราะ Wellness ก็คือ การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เน้นการดูแลสุขภาพร่างกายตั้งแต่ยังไม่ป่วย ให้พร้อมสู้ต่อในครึ่งปีหลังจากนี้ หากมีความเครียดมากขึ้น ก็อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติทั้งทางทางอารมณ์และร่างกายเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งเราสามารถมาพูดคุย รับคำปรึกษา รับการบำบัด เพื่อสร้างความสมดุลทั้งระบบความคิดและจิตใจ บริหารจัดการอารมณ์ แก้ปัญหาการนอนไม่หลับ รวมถึงการดูแลรักษาร่างกาย ในลักษณะผสมผสานหลากหลายรูปแบบอีกด้วย เช่น ใช้เสียงบำบัดให้นอน การรักษาด้วยกลิ่น น้ำมันหอมระเหย ฝังเข็ม เป็นต้น เพื่อปรับสมดุลของร่างกายของแต่ละบุคคล