ซ้อมตาย ก่อนตาย

 

ซ้อมตาย ก่อนตาย
มาทำความรู้จัก จิตวิทยากับการยอมรับความตาย และการเตรียมพร้อมสู่ความตาย เพราะความเจ็บป่วยเมื่ออายุมากขึ้น กระทั่งความตายยิ่งเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ การยอมรับความตาย หมายถึง การแสดงออก ทางกาย วาจาและจิตใจว่ามีความเข้าใจและยอมรับได้ของบุคคลที่มีต่อความตาย หรือการสูญเสียชีวิตของตนเองหรือผู้อื่น

การใช้ชีวิตอยู่ที่ดีพออาจส่งผลให้เป็นเหตุปัจจัยของการเผชิญต่อความตายได้ดี อย่างไรก็ตามความตายก็เป็นสิ่งที่ทุกคนพยายามทำความเข้าใจ จึงอาจมีความรู้สึกต่อความตายแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ความเชื่อของตนเอง เช่น กลัว กังวล และยอมรับได้ เป็นต้น จึงนำมาซึ่งพฤติกรรมในการวางแผนและใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน การแสวงหาที่แตกต่างกัน ความยึดเหนี่ยวจิตใจต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่แตกต่างกัน ตลอดจนความเชื่อมั่นต่อการมีชีวิตอยู่ เพื่อหลีกหนีความทุกข์ และอิ่มเอมกับความสุขในชีวิตได้

จากมุมมองของการยอมรับความตายทางพุทธศาสนา และจากประสบการณ์การศึกษาปฏิบัติ พบว่าความตาย จัดเป็นทุกข์ชนิดหนึ่งในชีวิต ที่หากบุคคลสามารถเข้าใจและปฏิบัติตนตามหลักธรรม โดยเฉพาะในส่วนของอริยสัจข้อสุดท้าย คือ มรรค 8 ซึ่งเนื้อหาหลักธรรม เน้นให้เรียนรู้เพื่อปฏิบัติแต่ในสิ่งที่เหมาะสม จนช่วยให้เห็นแนวทางพ้นทุกข์ โดยเมื่อนำมาเทียบข้อปฏิบัติและจัดหมวดหมู่ตามลำดับการใช้งานจริงแล้ว มรรค 8 สอดคล้องกับ หลักไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง โดย ไตรสิกขา จะมุ่งเน้นในการฝึกอบรมพัฒนากาย วาจา จิตใจ และปัญญา เพื่อให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นไปจนบรรลุจุดหมายสูงสุด สู่ความหลุดพ้นทุกข์เหมือนกันนั่นเอง

เมื่อวิเคราะห์ เทียบคำสอน มรรค  กับ ไตรสิกขา พบว่ามีความเชื่อมโยงกันและมีเป้าหมายสู่ความปล่อยวางเพื่อพ้นทุกข์ ดังนี้

ไตรสิกขา 3

1. ศีล 2. สมาธิ และ 3. ปัญญา

มรรค 8

1. สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)​

2. สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ)​

3. สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)​

4. สัมมากัมมันตะ (การกระทำชอบ)​

5. สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)

6. สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)​

7. สัมมาสติ (ระลึกชอบ)​

8. สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ)​

จะเห็นว่า หลักธรรม มรรค 8 สอดคล้องกับหลักไตรสิกขา ในเรื่อง ศีล ได้แก่

3. สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)

4. สัมมากัมมันตะ (การกระทำชอบ)​

5. สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)

ส่วนหลักธรรม มรรค 8 สอดคล้องกับหลักไตรสิกขา ในเรื่อง สมาธิ ได้แก่

6. สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)​

7. สัมมาสติ (ระลึกชอบ)​

8. สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ)​

สุดท้ายหลักธรรม มรรค 8 สอดคล้องกับหลักไตรสิกขา ในเรื่อง ปัญญา ได้แก่

1. สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)​

2. สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ)​

ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่า​ เมื่อถือศีลมั่นคง​ ปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิ​ พยายามกระทำการใด ๆ ด้วย​สติที่มั่นคง​ ก็จะเกิดปัญญา​ นำไปพิจารณา​ที่สุดแล้วจะเกิดความปล่อยวาง และหลุดพ้นได้​​นั่นอง หากปฏิบัติได้จริง ก็สามารถถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมของจิตใจ ซ้อมตาย ก่อนจากโลกนี้ไปจริง โดยไม่จำเป็นต้องเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายหรือได้รับความทุกข์ที่รุนแรงในชีวิตก่อนการปฏิบัติ รวมถึงสามารถพัฒนาความเข้าใจในความตาย และความทุกข์ต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างไม่ยากลำบาก และสามารถยอมรับได้เป็นอย่างดีในที่สุดซึ่งถือว่าเป็นการยอมรับต่อความตายอย่างแท้จริงจากประสบการณ์ของตนเองไม่ใช่จากการจินตนาการ 

นอกจากนี้การยอมรับความตายของบุคคลนั้น ยังมีความสำคัญต่อคนรอบตัวอย่างมาก กล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่มีพลังมากในการช่วยเยียวยาและแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ และที่สำคัญคือ สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ตนเอง ครอบครัว ผู้ดูแลพยาบาล ในระหว่างการดูแลประคับประคองก่อนถึงวันลาจาก นอกเหนือจากการดูแลเรื่องความเป็นอยู่ ค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาล จึงควรมีการส่งเสริมให้มีการพัฒนาการให้การดูแลด้านจิตใจ ในระดับบุคคลไปจนถึงสังคม ที่เน้นในเรื่องการปล่อยวางและยอมรับความตาย กระทั่งการเตรียมตัวก่อนตาย โดยประยุกต์หลักธรรมไตรสิกขามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตของผู้ป่วย ผู้ดูแล ตลอดจนบุคลากรสาธารณสุขมากขึ้น เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในการให้การดูแลแบบองค์รวม สร้างทัศนคติเชิงบวกได้ดีเกี่ยวกับความเจ็บป่วย และความตายในสังคมก่อนได้รับวินิจฉัยว่าเจ็บป่วย เพราะการดูแลแบบประคับประคองในช่วงท้ายทางการแพทย์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้การยอมรับความตายของบุคคลอยู่ในระดับที่ดีได้ ในทางกลับกันจากมุมมองทางพุทธศาสนา บุคคลผู้ปฏิบัติเจริญในไตรสิกขามาดีแล้วจะมีระดับการยอมรับความตายอยู่ในระดับที่ดีได้ และยังช่วยให้การดูแลแบบประคับประคองความเจ็บป่วยในระยะสุดท้ายเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติได้

เพื่อเตรียมตัวลาจากอย่างมีคุณภาพ นอกจากยอมรับความตายแล้ว ควรเริ่มเตรียมพร้อมส่งต่อมรดกและความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้กับคนข้างหลัง แม้ตายไปก็ได้ขึ้นชื่อว่าใช้ชีวิตคุ้มค่า ส่งต่อเงินก้อนให้ความมั่นคงสู่ลูกหลาน

ขอแนะนำ เอไอเอ เลกาซี เพรสทีจ พลัส (ไม่มีเงินปันผล) กรมธรรม์ที่ให้คุณเลือกกำหนดระยะเวลาชำระเบี้ยได้เอง พร้อมได้รับความคุ้มครองที่สูง และยาวตลอดชีวิต และสามารถส่งต่อทรัพย์สินให้กับคนที่เรารักได้  รับเงินสูงสุดถึง 90% * กรณีแพทย์วินิจฉัยว่าตกอยู่ในภาวะเจ็บป่วยระยะสุดท้าย ** โดยไม่ต้องรอเสียชีวิต พร้อมยกเว้นการชำระเบี้ยประกันภัยหลักที่เหลือ***

** ผลประโยชน์ภาวะเจ็บป่วยระยะสุดท้าย จำนวนเงินเอาประกันภัยภาวะเจ็บป่วยระยะสุดท้าย คิดเป็นสัดส่วนสูงสุดร้อยละ 90 ของจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์นี้จากการคำนวณจำนวนเงินเอาประกันภัยภาวะเจ็บป่วยระยะสุดท้าย หารด้วยจำนวนเงินเอาประกันภัยหลัก และคูณด้วยผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต
*** ผลประโยชน์ยกเว้นเบี้ยประกันภัย เมื่อบริษัทได้จ่ายผลประโยชน์ตามข้อ ** แล้ว บริษัทจะยกเว้นเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิต (ไม่รวมภาวะเจ็บป่วยระยะสุดท้าย คือ ผลสรุปการวินิจฉัยโรคหรือการบาดเจ็บที่รุนแรงจนไม่สามารถรักษาให้หายได้ ตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์สัญญาเพิ่มเติม)

แบบฟอร์มการติดต่อ ถูกใจ 0

วิธีการติดต่อ
สนใจบทความนี้? ติดต่อกลับเพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

ข้อมูลที่จำเป็น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น

ข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ครบ 10 หลัก
อีเมล
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
รหัสประเทศ
กรูณากรอกข้อมุลรหัสประเทศให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
จังหวัด

ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เอไอเอ จำกัด และกลุ่มบริษัทเอไอเอ (เอไอเอ) สามารถเก็บใช้ข้อมูลที่ข้าพเจ้าให้ไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือกิจกรรมใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ หรือแจ้งสิทธิประโยชน์ แจ้งข้อมูลข่าวสารของเอไอเอ ติดต่อและนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ กรมธรรม์ ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนประกันชีวิต การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการเงิน (FA) หรือ AIA Life Advisor และใช้เพื่อประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล ความสนใจของข้าพเจ้าที่มีต่อการนำเสนอข้อมูลทางการตลาดเพื่อให้เอไอเอปรับปรุง และพัฒนาการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางการตลาด รวมถึงยินยอมให้เอไอเอส่งหรือโอนข้อมูลแก่พันธมิตรทางการค้า/คู่ค้า ตัวแทนประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันชีวิต (ถ้ามี) เพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกันข้างต้น
ฉันยืนยันว่าฉันได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ สามารถศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เว็บไซต์ของเอไอเอตามลิ้งค์ดังต่อไปนี้ www.aia.co.th/privacy และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ร้องขอใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (DPO) ผ่านเอไอเอคอลเซ็นเตอร์ โทร. 1581 หรืออีเมลมาที่ th.privacy@aia.com หรือติดต่อตามที่อยู่ที่ บริษัท เอไอเอ จำกัด 181 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพ 10500
ส่ง