ลำไส้ = สมองที่สองของมนุษย์

รู้หรือไม่?! “ลำไส้” เสมือนเป็น “สมองที่สองของมนุษย์”
หากลำไส้มีปัญหา อาจจะส่งผลเสียทั้งด้านร่างกายและจิตใจเลยทีเดียว

เนื่องจากลำไส้ของเรามีเซลล์ประสาทหลายล้านเซลล์ รวมถึงภายในลำไส้ยังมีเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทชนิดเดียวกับในสมองอยู่มากถึงร้อยละ 95 ของปริมาณเซโรโทนินทั้งหมดในร่างกาย จึงส่งผลให้ลำไส้สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยคำสั่งจากสมอง จึงได้ฉายาว่าเป็น “สมองที่สองของมนุษย์”

สมองที่สองนี้ ไม่เพียงควบคุมการย่อยและดูดซึมสารอาหารให้ร่างกายนำไปใช้เท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญของชีวิตด้วย เพราะในลำไส้ยังมีจุลินทรีย์ธรรมชาติ ที่นอกจากทำหน้าที่ย่อยอาหารแล้ว ยังมีการหลั่งของสารสื่อประสาทเหมือนในสมอง ซึ่งเกี่ยวกับข้องกับจิตประสาท อารมณ์ การนอน และความรู้สึกต่าง ๆ คอยปลดปล่อยฮอร์โมนต่าง ๆ ที่มีผลต่ออวัยวะทั้งหมดของร่างกาย รวมถึงสมองด้วย ซึ่งประสาทเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน สามารถเชื่อมกันส่งต่อถึงกันและกันได้ เรียกได้ว่าลำไส้มีความรู้สึก รู้จักคิด และแสดงอารมณ์ได้ไม่ต่างจากสมองเลยทีเดียว

ตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดความเครียด ส่วนใหญ่เรามักจะคิดว่าเป็นเรื่องของสมอง แต่ความเครียดนี้จริง ๆ แล้วส่งผลกับลำไส้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเครียดจึงอาจเกิดภาวะลำไส้แปรปรวน ทำให้เราปวดท้องได้ บางคนเมื่อเกิดความเครียดจะมีอาการท้องเสีย หรือบางคนท้องผูก และจะมีอาการทางจิตใจร่วม คือ อารมณ์หงุดหงิด เป็นต้น นั่นเป็นเพราะเกิดกระทบต่อการสารเซโรโทนินที่ร่างกายของเราผลิตได้ ซึ่งสื่อประสาทในร่างกายของเราเชื่อมกันหมด เมื่อเกิดปัญหาที่จุดหนึ่ง อาจกระทบได้หลายจุดมากกว่าที่คิด และอาจเป็นจุดที่หลายคนคาดไม่ถึงก็เป็นได้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพลำไส้

มีหลายปัจจัย และมักจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลร่วมกันเสียด้วย โดยปัจจัยหลัก ๆ คือ ไลฟ์สไตล์ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานั่นเอง ทั้งการทานอาหาร ความเครียด การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ การออกกำลังที่มากหรือน้อยเกินไป การดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งมีส่วนทำลายลำไส้ การทานยาบางชนิดที่ทำลายผนังลำไส้ได้ รวมถึงโลหะหนัก สารพิษ เชื้อโรคที่รับเข้าไปในร่างกายโดยไม่รู้ตัว ฯลฯ

หากเราดูแลสมดุลใน “ลำไส้” ได้ไม่ดี อาจเป็นบ่อเกิดของสารพัดโรคโดยไม่รู้ตัว เพราะภาวะลำไส้ที่ไม่ปกติ ทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้ขาดความสมดุล จนอาจกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารอื่น ๆ เช่น สารต้านการอักเสบ สารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งหลั่งออกมาในลำไส้ แล้วส่งผลถึงทั้งร่างกายและจิตใจได้  ดังนั้นการดูแลสุขภาพลำไส้ให้ดี จึงมีส่วนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และช่วยลดปัญหาสุขภาพจิตได้ รวมถึงส่งผลต่อสุขภาพองค์รวมของเราที่ให้ดีขึ้นนั่นเอง

ผลเสียต่อสุขภาพจิต

ลำไส้มีความเชื่อมโยงกับอารมณ์ ปัจจัยหนึ่งที่เชื่อมโยงลำไส้กับอารมณ์โดยทั่วไปของเราก็คือ สารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาททางเคมี ที่ส่งผลต่อการทำงานหลายอย่างของร่างกาย รวมถึงการเคลื่อนไหวของลำไส้ นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับอาการผิดปกติทางจิตใจด้วย โดยประมาณ 80-90% ของสารเซโรโทนินทั้งหมดที่ร่างกายสร้างได้ เกิดขึ้นจากบริเวณทางเดินอาหาร ซึ่งมากกว่าการผลิตออกมาจากสมองเสียอีก

การมีความเครียดติดต่อกันเป็นเวลานาน จึงอาจจะลดระดับของสารเซโรโทนินที่ลำไส้สร้างได้ลง ส่งผลให้จุลินทรีย์ในลำไส้ขาดความสมดุล และส่งผลต่อสภาวะอารมณ์ รวมถึงความสุข และระดับความกังวล ของเราได้ จนอาจทำให้กลายเป็น “โรคซึมเศร้า” ได้ในที่สุด


ผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย

หากลำไส้มีความผิดปกติ จะทำให้สารเคมีในลำไส้ไม่สมดุล และส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายอย่างมาก

• ระบบภูมิคุ้มกัน
เนื่องจากจุลินทรีย์ในลำไส้มีส่วนช่วยควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดและภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ การที่ภูมิคุ้มกันต่ำลงจึงเกี่ยวเนื่องกับลำไส้โดยตรง เพราะ 70% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันอาศัยอยู่ในลำไส้นั่นเอง ดังนั้นเมื่อลำไส้มีปัญหาจึงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคสะเก็ดเงิน  โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นต้น

• ระบบย่อยและดูดซึมอาหาร
เมื่อลำไส้มีสุขภาวะที่ดีก็จะสามารถดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากเกิดภาวะลำไส้แปรปรวน หรือภาวะลำไส้รั่ว จะทำให้ระบบย่อยและดูดซึมอาหารผิดปกติ ซึ่งผลเสียที่ตามมา คือ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากนั้นยังอาจทำให้สารพิษ สารเคมี เชื้อโรคต่างๆ สามารถเล็ดลอดผ่านเข้ามาในร่างกายได้

ดังนั้น การทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มจุลินทรีย์ในลำไส้ จึงเป็นการช่วยทำให้สุขภาพลำไส้ดีขึ้น ซึ่งย่อมทำให้สุขภาพร่างกาย และจิตใจ ดีขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังทำให้ฮอร์โมนสมดุลขึ้นด้วย เพราะจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลต่อฮอร์โมนและสุขภาพของเราอย่างมาก ให้พลังงานในอาหารเยียวยาตัวเอง พร้อมดูแลลำไส้ไปด้วย ดังนั้น เอไอเอ จึงนำผักและผลไม้ที่เป็นมิตรต่อลำไส้มาฝากกัน ดังนี้

• แอปเปิล มีประสิทธิภาพล้างพิษ และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

 • แคร์รอต ดีต่อระบบย่อยอาหาร และช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียตัวร้ายในระบบทางเดินอาหาร

• มะนาว นำไปผสมกับน้ำอุ่นดื่มตอนเช้า จะช่วยระบบย่อยอาหารให้สมดุลขึ้น

• พริกสด ช่วยให้ร่างกายหลั่งน้ำลายออกมามากขึ้น ลดภาระของกระเพาะและลำไส้

• ถั่ว  มีไฟเบอร์สูง ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้

• หอมแดง อุดมด้วยสารบำรุงลำไส้ถึง 4 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยย่อย และทำให้เจริญอาหาร

• ใบกะเพรา ช่วยขับน้ำดี ย่อยไขมันได้ดีขึ้น ลดอาการจุกเสียด ช่วยลดการหลั่งกรด ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ที่มากเกินไป จึงทำให้บรรเทาอาการปวดท้องได้

• กะหล่ำปลีเขียว บรรเทาอาการอักเสบของแผลในลำไส้ หรือแผลในกระเพาะอาหาร

• กระเทียม ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ลดอาการอาหารไม่ย่อย เพราะช่วยเพิ่มการบีบตัวของลำไส้จึงช่วยลำเลียงอาหารในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

ที่สำคัญควรดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณ 2 ลิตรต่อวัน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารที่มีน้ำตาลปริมาณสูง และอาหารรสเผ็ด เนื่องจากว่าสารเหล่านี้จะไปรบกวนการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้ ก่อการอักเสบในร่างกายซึ่งจะไปรบกวนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันนั่นเอง นอกจากเรื่องการทานอาหาร คุณควรจัดการกับความเครียดในแบบของคุณ รวมถึงพยายามปรับปรุงการนอน เพราะถ้าคุณรบกวนนาฬิการ่างกายด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการนอน ก็จะเป็นการรบกวนวงจรของจุลินทรีย์ในลำไส้ไปด้วยนั่นเอง

• ระบบการเผาผลาญ
ความเครียด สารเคมี และอาหารที่ตกค้างในร่างกาย ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อลำไส้ และรบกวนระบบเผาผลาญ จนอาจทำให้เพิ่มโอกาสเป็นโรคอ้วนและมีปริมาณไขมันที่มากเกินเกณฑ์มาตรฐาน ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง อารมณ์แปรปรวน น้ำหนักขึ้นง่ายแต่ลงยาก เป็นต้น

• ระบบขับถ่ายผิดปกติ
เมื่อลำไส้มีความผิดปกติ เช่น โรคไอบีเอส หรือโรคสำไส้ทำงานแปรปรวน จะส่งผลให้ระบบขับถ่ายผิดปกติตามไปด้วย เช่น ท้องผูก ท้องเสีย หรือเป็นทั้ง 2 แบบสลับกัน เป็นต้น ดังนั้นควรขับถ่ายให้เป็นเวลาและทุกวัน เพื่อป้องกันการสะสมและการคั่งค้างของสารพิษในร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีหลายโรคที่เกี่ยวเนื่องกับลำไส้ เช่น โรคที่เกิดจากพฤติกรรม หรือ Non-communicable Diseases (NCDs) โรคเหล่านี้ เป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ ระบบการเผาผลาญ ฮอร์โมน หลอดเลือดต่าง ๆ เมื่อลำไส้ผิดปกติอาจก่อให้เกิดโรคร้ายอย่าง “โรคมะเร็งลำไส้” ซึ่งถือเป็นภัยเงียบที่ไม่แสดงอาการ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในวัยทำงาน โดยอาการเตือนที่มักปรากฏให้เห็นของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เช่น อุจจาระมีเลือดปน น้ำหนักลด ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ท้องผูกสลับท้องเสียอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรืออาจมีอาการท้องเสียเรื้อรัง เป็นต้น หากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้อง

เมื่อรู้ว่าลำไส้มีความสำคัญมากกว่าที่คิดขนาดนี้ แล้วคุณ...เตรียมพร้อมเรื่องสุขภาพและโรคร้ายแรงไว้แค่ไหน?!
วางแผนสุขภาพให้มั่นใจตั้งแต่วันนี้ ด้วย ประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงแบบแพ็กคู่ ที่สามารถซื้อเพิ่มจากความคุ้มครองที่มีได้เลย เพื่อเพิ่มความครอบคลุมทุกเรื่องสุขภาพและโรคร้ายแรง ให้คุณเบาใจเรื่องค่ารักษาพยาบาล และอุ่นใจหากป่วยโรคร้ายแรงไม่คาดคิด เอไอเอ ขอแนะนำคู่นี้

•AIA Health Saver ประกันสุขภาพที่ช่วยเซฟเบี้ยฯ แต่ให้ความคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่าย1 คุ้มค่า เพราะเบี้ยฯ เริ่มต้นแค่เดือนละ 575 บาท2 คุ้มครองเพิ่มเป็น 2 เท่า3 สำหรับ 6 โรคร้ายแรง4 ยอดฮิต เหมาะที่จะซื้อเพื่อเพิ่มความคุ้มครองจากสวัสดิการ 5 ที่มี

• AIA Multi-Pay CI ประกันโรคร้ายแรง ที่ให้คุณเคลมได้สูงสุด 11 ครั้ง รวมสูงสุด 800% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย6 แม้เป็นโรคร้ายแรง 7 หลายครั้งก็มั่นใจ ได้ว่าจะมีเงินก้อนไว้รักษาตัว ก็ไม่สร้างภาระให้ครอบครัว

ร้อนนี้! มีทั้งคู่อุ่นใจยิ่งกว่า

เริ่มสร้างหลักประกันสุขภาพช่วงซัมเมอร์

ด้วยการทำแบบประกันสุขภาพ คู่กับแบบประกันโรคร้ายแรงจากเอไอเอ

พิเศษ !!! เมื่อสมัครทั้งประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงคู่โดยชำระเบี้ยประกันภัยรวมขั้นต่ำ 10,000 บาท และลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์เอไอเอ
รับกระเป๋าถือ “AIA RABBIT COLLECTION” มูลค่า 490 บาท

ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2566 นี้เท่านั้น*

คลิกด้านล่างเพื่อติดต่อตัวแทน AIA เลย

เงื่อนไขเพิ่มเติม

1 ผลประโยชน์เหมาจ่ายในบางรายการ เมื่อรวมผลประโยชน์ในหมวดที่ 3 – 6 และ 12 ต้องไม่เกินวงเงินต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง / รวมผลประโยชน์ในหมวดที่ 9 – 11 ต้องไม่เกินวงเงินต่อรอบปีกรมธรรม์ 2 คำนวณจากเบี้ยประกันภัยรายปี 6,900 บาท สำหรับเพศชายอายุ 21 - 25 ปี แผนความคุ้มครอง 200,000 บาท

3 ผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรง เมื่อป่วยเป็นโรคร้ายแรงครั้งแรก สำหรับ (1) ผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 2 และผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 3 - 6 และ 12 ต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผลประโยชน์ในหมวดย่อยที่ 2.4 และ (2) ผลประโยชน์สูงสุดในหมวดที่ 9 - 11 ต่อรอบปีกรมธรรม์

4 โรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครอง ได้แก่ 1) กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด 2) โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน 3) การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ 4) โรคมะเร็งระยะลุกลาม 5) การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก และ 6) การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า

5 สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลประกันกลุ่มของนายจ้าง และ/หรือสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลจากรัฐบาล (ถ้ามี) และ/หรือประกันสังคม (ถ้ามี) และ/หรือประกันสุขภาพส่วนตัวที่มีอยู่ (ถ้ามี) เป็นต้น


6 รับผลประโยชน์ โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงสุด 5 ครั้ง และโรคร้ายแรงระดับรุนแรง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงสุด 6 ครั้ง

7โรคร้ายแรง หมายถึง โรคร้ายแรงตามคำนิยามของโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้ บันทึกสลักหลังผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีโรคร้ายแรง มีดังนี้ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack), โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke), การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery By-Pass Surgery), โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancer), การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก (Major Organs Transplantation or Bone Marrow Transplantation), และการผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า (Surgery to Aorta)


หมายเหตุ :
- ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

- เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ยกเลิก แก้ไขรายละเอียดหรือเงื่อนไขต่างๆ โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท

- ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

ขอบคุณข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค และ กรมสุขภาพจิต

 

แบบฟอร์มการติดต่อ ถูกใจ 0

วิธีการติดต่อ
สนใจบทความนี้? ติดต่อกลับเพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

ข้อมูลที่จำเป็น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น

ข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ครบ 10 หลัก
อีเมล
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
รหัสประเทศ
กรูณากรอกข้อมุลรหัสประเทศให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
จังหวัด

ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เอไอเอ จำกัด และกลุ่มบริษัทเอไอเอ (เอไอเอ) สามารถเก็บใช้ข้อมูลที่ข้าพเจ้าให้ไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือกิจกรรมใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ หรือแจ้งสิทธิประโยชน์ แจ้งข้อมูลข่าวสารของเอไอเอ ติดต่อและนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ กรมธรรม์ ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนประกันชีวิต การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการเงิน (FA) หรือ AIA Life Advisor และใช้เพื่อประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล ความสนใจของข้าพเจ้าที่มีต่อการนำเสนอข้อมูลทางการตลาดเพื่อให้เอไอเอปรับปรุง และพัฒนาการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางการตลาด รวมถึงยินยอมให้เอไอเอส่งหรือโอนข้อมูลแก่พันธมิตรทางการค้า/คู่ค้า ตัวแทนประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันชีวิต (ถ้ามี) เพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกันข้างต้น
ฉันยืนยันว่าฉันได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ สามารถศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เว็บไซต์ของเอไอเอตามลิ้งค์ดังต่อไปนี้ www.aia.co.th/privacy และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ร้องขอใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (DPO) ผ่านเอไอเอคอลเซ็นเตอร์ โทร. 1581 หรืออีเมลมาที่ th.privacy@aia.com หรือติดต่อตามที่อยู่ที่ บริษัท เอไอเอ จำกัด 181 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพ 10500
ส่ง