ในตอนที่เราอายุ 20 กว่า ๆ หลายต่อหลายคนต่างกังวลใจถึงวัย 30 เพราะรู้สึกว่าอายุที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3 นั้น ฟังดูแก่เหลือเกิน แต่ทันใดนั้น เราก็ได้เรียนรู้ว่า การได้มีอายุในช่วงเลข 3 ถือเป็นช่วงเวลาที่สนุก มีสีสัน และลืมไม่ลงที่สุดแล้ว ด้วยวัยของการเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว การเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน การรับผิดชอบชีวิตตัวเองแบบ 100% การก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาสำคัญของความสัมพันธ์ต่าง ๆ การที่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง เรียนรู้ว่าอะไรที่มี “คุณค่าในชีวิตอย่างแท้จริงของเรา” สิ่งเหล่านี้ ล้วนเกิดขึ้นในวัย 30 ทั้งสิ้น
แต่แล้วช่วงเวลาที่มีความหมายก็ผ่านไปไวอย่างน่าใจหาย รู้ตัวอีกที ตอนนี้เราก็อยู่ในวัยของ “หลัก 4” กันเสียแล้ว จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่าอายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ในปี 2019 คือ 73.4 ปี การที่เราเดินทางมาจนถึงอายุ 40+ ก็ถือว่าเป็นการเดินทางของชีวิตในครึ่งหลังอย่างเป็นทางการ
แต่ถ้าถามว่า เราจำเป็นจะต้องเครียดหรือกังวลไหมกับตัวเลขของอายุที่เพิ่มมากขึ้น ตอบเลยว่าไม่ เพราะในยุคปัจจุบัน มีคนอายุ 40+ จำนวนมาก ที่ต่างก็ยังดูวัยรุ่น สดใส ดูดี และแข็งแรง ด้วยการรู้จักดูแลตัวเอง จนสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลาย ๆ คนได้อย่างมากมาย
ศาสตร์แห่งการดูแลตัวเองนั้นเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริง เรามาดูกันว่าพื้นฐานของการดูแลตัวเองเบื้องต้น ที่จะสามารถช่วยให้พวกเราทุกคนยังดูอ่อนกว่าวัยแม้จะอยู่ใน “หลัก 4” แล้วก็ตาม นั้นมีอะไรบ้าง แล้วคุณจะเซอร์ไพรส์ว่ามันไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เคยกังวลเลย
1. มั่นใจในตัวเองอยู่เสมอ เพราะการจะรู้สึกว่าตัวเองดูดีนั้น ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเราเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามมาตรฐานของใคร
ล้าสมัยแล้วกับความคิดที่ว่าต้องผอม ต้องขาว ต้องสูงเท่านั้น ถึงจะได้เป็นเป็นคนที่ดูดีได้ ในยุคแห่งความหลากหลายนี้ คำว่า “ดูดี” นั้นไม่มีแบบฉบับ ขอแค่เพียงเราส่องกระจกแล้วมีความสุข รู้สึกชอบและพึงพอใจในตัวเอง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของความสดใสได้เปล่งประกายออร่าของความอ่อนเยาว์ออกมาสู่คนรอบข้าง รับรองว่าใครต่อใครก็ต้องไม่เชื่อและตะลึงเมื่อรู้ว่าคุณอายุ 40
2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
3 สิ่งนี้ เป็นสิ่งที่เราได้ยินมาตลอดชีวิต และจะยังได้ยินต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเป็นเรื่องจริงที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แม้จะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องปกติพิ้นฐาน[N1] ที่ทำได้ง่าย ๆ แต่ยิ่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่มานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เรียนรู้ว่าการจัดการเวลาในแต่ละวัน เพื่อให้ความสำคัญกับการทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายที่ดี และการพักผ่อนที่มีคุณภาพนั้น เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ง่าย ๆ เลย หากเรามีวินัยไม่มากพอ
เหตุผลที่เราต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ไปตลอดชีวิต เพราะ 3 สิ่งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายเราแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อจิตใจและสมอง อันเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อ “สภาพอารมณ์” ของเรา และเมื่ออารมณ์ของเราดีและแจ่มใสอยู่เสมอ ความแก่ก็เป็นเรื่องที่อยู่ห่างจากเราอีกไกลแสนไกล
3. งดบุหรี่ และแอลกอฮอล์
มีงานวิจัยจากทั่วโลกที่ให้ผลยืนยันได้ว่าการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลให้ร่างกายแก่และทรุดโทรมลงจริง
การสูบบุหรี่ ทำให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ช้าลง ทั้งยังไปทำลายคอลลาเจนในร่างกาย ส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อย และแห้งสาก ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายขาดวิตามินบี ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยให้ผิวพรรณของเราดูสุขภาพดี มีน้ำมีนวล ชุ่มชื้น ไม่หย่อนยาน
4. รักษาความสะอาดของร่างกาย และทาครีมบำรุงผิวอยู่เสมอ
เรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ และเห็นผลได้จริง แต่เพราะต้องทำทุกวัน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนเบื่อ อย่างการอาบน้ำ สระผม ที่จะช่วยให้ร่างกายของเราสะอาดและมีกลิ่นหอม ดึงดูดให้น่าเข้าใกล้อยู่เสมอ
แม้การทำความสะอาดร่างกายจะเป็นเรื่องของสุขอนามัยของคนทุกเพศ ทุกวัย
อย่างไรก็ตาม “วัยรุ่นหลัก 4” อย่างพวกเรา การดูแลเรื่องความสะอาดของร่างกายนั้นมีความสำคัญมากกว่าเดิมมากขึ้นไปอีก เพราะในวัยนี้ ร่างกายจะมีกลิ่นตัวที่หลายคนเรียกว่าเป็น “กลิ่นแก่” เป็นกลิ่นที่มักจะเกิดกับคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เกิดจากการที่ร่างกายมีต่อมไขมันที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่ร่างกายสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้น้อยลง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นกายเฉพาะตัวของคนวัยนี้ ได้
แม้กลิ่นนี้จะไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงการรักษาความสะอาดของร่างกายเสมอไป แต่การอาบน้ำ สระผม ทาครีมให้ตัวหอม ก็ช่วยให้คนรอบข้างได้สัมผัสกับความหอมสดชื่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ๆ เราได้
การทาครีมบำรุงผิวอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ควรทำในทุกวัน เพราะครีมบำรุงผิวจะช่วยดูแลผิวของเราให้อ่อนเยาว์ได้ จำไว้ว่าการรักษาสภาพผิวให้คงเดิมนั้นง่ายและมีต้นทุนต่ำกว่าการไปซ่อมแซมผิวที่แห้งเสียไปแล้วมากนัก สละเวลาเพียงวันละ 2 - 3 นาที เพื่อยืดอายุของความอ่อนเยาว์ของเราให้คงอยู่ยาวนานยิ่งขึ้น
5. อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ออกไปพบเจอผู้คน และหาโอกาสพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติบ้าง
“ความอ่อนเยาว์นั้นอยู่ที่ใจ” คนที่อารมณ์ดี มีจิตใจที่แจ่มใส เบิกบาน ย่อมดูเด็กและมีสเน่ห์ จนน่าเข้าหา ความสดใสที่ยังคงอยู่ ดูอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ว่าอายุ “40” แล้ว
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คนวัยเราแค่ทำงานก็ยุ่งมากพอแล้ว ไหนจะยังต้องตามโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใบนี้ให้ทัน การได้มีโอกาสออกไปพบเจอผู้คน แลกเปลี่ยนความคิด ทัศนคติใหม่ ๆ จะช่วยเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้น ส่งผลให้เราเป็นคนที่มีมุมมองที่ทันสมัย ไม่ล้าหลังเหมือนคนที่แก่แล้วแก่เลย [T3]
นอกจากนี้ การพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น เบิกบานได้อย่างไม่น่าเชื่อ พลังแห่งธรรมชาติจะช่วยฮีลจิตใจของเราให้เบาลง ภาระ ความกังวลอันหนักอึ้งจะมลายหายไปในพริบตา ทิ้งไว้เพียงความสุขและความผ่อนคลาย ดังนั้น การพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอยู่เสมอ จะช่วยสร้างความอ่อนเยาว์ได้เป็นอย่างดี
สังเกตได้ว่าทุกข้อข้างต้นนั้น ล้วนเป็นเรื่องเบสิกธรรมดาที่เราพยายามทำมาตลอด อาจจะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง หรืออาจจะไม่ได้ทำอย่างสม่ำเสมอ
แต่ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น การมีวินัยในการดูแลตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “หากอยากเป็นอิสระจากอะไร ให้เรามีวินัยที่เคร่งครัดกับสิ่งนั้น” หากเราอยากเป็นอิสระจากอายุที่มากขึ้น อยากดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ก็จำเป็นที่จะต้องมีวินัยในการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด
แต่ไม่ว่าจะคุณจะอายุมากขึ้นขนาดไหน ก็เติบโตอย่างมีความสุขได้อย่างยั่งยืนกับ เอไอเอ
กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ
หมายเหตุ :
- ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
