คนขี้แพ้! สัญญาณของภูมิแพ้ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลง

เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวแดดร้อน อากาศเปลี่ยนนิดเดียวก็คัดจมูก ทำให้หลาย ๆ คนมักมีอาการภูมิแพ้กำเริบทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยน ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนส่วนใหญ่เป็นภูมิแพ้มาจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป อากาศแปรปรวน ฝุ่นควัน รวมถึงภูมิคุ้มกันที่ลดลง

สาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้

1. กรรมพันธุ์ หากทั้งพ่อและแม่ใประวัติเป็นภูมิแพ้ หรือหอบหืด ลูกมีโอกาสเป็นภูมิแพ้มากถึง 50-70% 

2. สภาพอากาศ การอยู่ในที่ที่อากาศเปลี่ยนแปลงไปมา อากาศเย็น หรืออากาศร้อนเกินไป

3. สภาพแวดล้อม หากอาศัยอยู่ในที่ที่มีสารก่อระคายเคือง หรือสารก่อภูมิแพ้อาจเสี่ยงที่จะเกิดอาการกำเริบได้บ่อยกว่าปกติ เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่น มลพิษทางอากาศ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ ฯลฯ

โรคภูมิแพ้ของแต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันตามอวัยวะเหล่านี้

- โรคภูมิแพ้ทางตา (Allergic conjunctivitis) การอักเสบบริเวณดวงตาที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ของเยื่อบุตาต่อสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือแพ้คอนแทคเลนส์ ซึ่งอาการจะคล้ายกับโรคตาแดง แต่โรคภูมิแพ้ตาไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอย่างไวรัสหรือแบคทีเรีย แต่เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ที่จะทำปฏิกิริยาต่อผู้ที่แพ้เท่านั้น

- โรคแพ้อากาศ (Allergic rhinitis) เป็นอาการแพ้ที่พบได้บ่อยที่สุด สาเหตุหลักคือแพ้สารในอากาศ เช่น ฝุ่น ควัน มีอาการคล้ายกับหวัด แต่ต่างกันตรงที่โรคหวัดจะหายในประมาณ 3-10 วัน แต่โรคภูมิแพ้อากาศจะมีอาการคันจมูกร่วมด้วย รวมไปถึงอาการคันตา น้ำตาไหล และมักมีระยะเวลาของโรคยาวนานมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป

- โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Allergic skin disease) เป็นภูมิแพ้ที่จะเป็น ๆ หาย ๆ อาจมีสิ่งกระตุ้นทำให้เกิด เช่น เหงื่อ การอาบน้ำอุ่นทำให้ผิวแห้งอากาศแห้งในฤดูหนาว การเกาจนติดเชื้อที่ผิวหนัง และมักจะเกิดขึ้นร่วมกับโรคแพ้อากาศด้วย

- โรคแพ้อาหาร (Food allergy) หลายคนมักจากสับสนกับโรคอาหารเป็นพิษแต่อาการแพ้อาหารจะไม่เกิดขึ้นกับคนทั่วไปและมักจะมีอาการภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม น้ำตาไหล คัดจมูก ร่วมด้วย

- โรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรงที่มีอาการหลายระบบ (Anaphylaxis) จะมีอาการภูมิแพ้แบบคอมโบทั้งอาการคันจมูก น้ำมูกไหล มีผื่นแดง อาเจียนในเวลาเดียวกันเกิดขึ้นแบบฉับพลัน มักเกิดภายใน 5-30 นาทีหลังจากได้รับสารก่อภูมิแพ้ หรือไม่เกิน 2 ชั่วโมง หลังได้รับสารก่อภูมิแพ้ชนิดรับประทาน

กลุ่มอาหารต้านโรคภูมิแพ้

กลุ่มวิตามิน ซี: เช่น ผักโขม บร็อคโคลี ส้ม สตรอเบอรี่ มะนาว เป็นต้น ช่วยป้องกันการหลั่งฮิสตามีน ซึ่งเป็นสารสำคัญในร่างกายที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้

กลุ่มซิลิเนียม: เช่น หอมหัวใหญ่ หอมแดง เป็นต้น ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม

กลุ่มโปรตีน: เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ไก่ ธัญพืช เป็นต้น มีสารสำคัญอย่างกรดอะมิโน ที่นำไปสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

กลุ่มโอเมก้า 3: เช่น ปลาทะเลน้ำลึก ถั่วเหลือง หรือผักใบเขียวเข้ม เป็นต้น ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

กลุ่มโพรไบโอติกส์: เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ เป็นต้น ช่วยดูดซึมสารอาหาร ป้องกันโรคและรักษาภาวะที่ผิดปกติของร่างกาย

กลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์: เช่น ใบบัวบก สับปะรด แอพริคอต เป็นต้น เสริมภูมิต้านทานของร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอย

แม้ภูมิแพ้จะเป็นโรคประจำตัวเรื้อรังที่รักษาไม่หาย แต่ก็สามารถบรรเทาอาการให้บางเบาลงได้ด้วยการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ไม่ควรออกกำลังกายในช่วงที่อาการของภูมิแพ้กำเริบ

ดังนั้น สำหรับใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ไม่รุนแรง แนะนำให้เพิ่มความอุ่นใจด้วย AIA Health Happy ประกันสุขภาพแบบ เหมา เบิ้ล คุ้ม ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 25 ล้านบาท เบิ้ลค่ารักษาเพิ่มเป็น 2 เท่า (1) เมื่อตรวจพบ 6 โรคร้ายแรงยอดฮิต(2) พร้อมยังสามารถรักษาแบบ OPD ได้สูงสุด 30 ครั้ง ต่อรอบปีกรมธรรม์ (เฉพาะแผน 25 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่โอกาสเกิดภาวะภูมิแพ้อย่างรุนแรง ควรเลือกประกันที่ครอบคลุมโรคร้ายแรง อย่าง AIA CI Plus ประกันโรคร้ายเจอ-จ่าย-จบ คุ้มครอง 44 โรคร้ายแรง/การรักษา(3) พร้อมคุ้มครองกรณีเสียชีวิต ทั้งอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วยอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคร้ายแรง

หากสนใจทำประกัน AIA Health Happy และ AIA CI Plus กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ

(1)ผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย ในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรง ตามคำนิยามที่กำหนดในบันทึกสลักหลัง

(2)โรคร้ายแรง หมายถึง โรคร้ายแรงตามคำนิยามของโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้บันทึกสลักหลัง ผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีโรคร้ายแรง มีดังนี้ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack), โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke), การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery By-Pass Surgery), โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancer), การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก (Major Organs Transplantation or Bone Marrow Transplantation), และการผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า (Surgery to Aorta)

(3)คุ้มครองครอบคลุมถึง 44 โรคร้ายแรงที่พบบ่อย ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคทางสมอง โดยคุ้มครองโรคร้ายแรงระดับรุนแรง 44 โรค/การรักษา (รวมโรคร้ายแรงสำหรับผู้เยาว์ 4 โรค)

หมายเหตุ

- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

- ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ขอบคุณข้อมูล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)