อ่านหนังสือนิทาน พ่อแม่อ่านให้ฟัง VS เปิดผ่านจอให้ดู แบบไหนดีต่อลูกนะ

อ่านหนังสือนิทาน พ่อแม่อ่านให้ฟัง VS เปิดผ่านจอให้ดู แบบไหนดีต่อลูกนะ

หนังสือนิทาน ถือเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการเปิดจินตนาการอันไม่รู้จบให้กับลูกน้อย ทั้งยังเพิ่มคลังคำศัพท์และเปิดโลกแห่งภาษา ช่วยให้ลูกของคุณมีพัฒนาการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการอ่านหนังสือนิทานนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มอ่านได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์ของแม่ เพื่อให้กระตุ้นการได้ยินและเกิดความคุ้นเคยกับเสียงของพ่อแม่ได้ด้วย

จากข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยตลอด 5 ปี ที่ผ่านมามีแนวโน้มพัฒนาการด้านภาษาล่าช้าสูงขึ้นทุกปี โดยในปี 2566 พบเด็กมีพัฒนาการด้านภาษาล่าช้าด้านการเข้าใจภาษา (Receptive language) สูงถึงร้อยละ 60.9 และพัฒนาการด้านภาษาล่าช้าด้านการใช้ภาษา (Expressive language) สูงถึงร้อย 74.8 ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จึงต้องเป็นบุคคลที่รับบทบาทสำคัญที่สุดเพื่อจะสร้างเสริมเชาว์ปัญญาของเด็กตั้งแต่เด็กเล็ก โดยใช้นิทานเป็นสื่อพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ

ความแตกต่างระหว่าง อ่านนิทานให้ลูกฟัง VS เปิดนิทานผ่านจอให้ลูกดู

อ่านนิทานให้ลูกฟัง: ภาพในหนังสือนิทานจะหยุดนิ่ง มีเวลาให้ลูกเก็บรายละเอียด สร้างจินตนาการและเชื่อมโยงความคิด คุณพ่อคุณแม่และลูกสามารถกำหนดจังหวะการพลิกหนังสือให้สอดคล้องตามการรับรู้ของลูกได้ ซึ่งตรงนี้จะทำให้สมองจับสัญญาณและจดจำได้ว่าเนื้อหาที่อ่านมาแล้วอยู่ช่วงใด อยู่บทใด หน้าใด ย่อหน้าใด รวมถึงลูกได้มีส่วนร่วมในการเล่านิทาน อย่างการถามความหมายของสิ่งต่าง ๆ หรือขอให้พ่อแม่ เล่าบางส่วนซ้ำ เป็นการสื่อสารสองทางระหว่างกัน

เปิดนิทานผ่านจอให้ลูกดู: ในขณะที่การท่องโลกกว้างแบบที่ใช้แค่ปลายนิ้วจิ้มและภาพทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูกมีสมาธิสั้น ก้าวร้าวและมีพฤติกรรมออทิสติก เพราะขาดการปฏิสัมพันธ์กับคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงขาดทักษะด้านอื่น ๆ หรือพัฒนาการล่าช้า เนื่องจากภาพในจอมีครบทั้งภาพและเสียง ทำให้ลูกไม่ได้ฝึกจินตนาการเองและไม่สนใจที่จะทำกิจกรรมอื่น เมื่อร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหว ก็อาจเสี่ยงเป็นโรคอ้วนตามมา

การอ่านนิทาน = การผจญภัย

1. การอ่านนิทานเป็นการผจญภัยไปกับพ่อแม่: เป็น Golden Moment ที่ลูกของคุณจะเริ่มสร้างจินตนาการว่าตัวละครในหนังสือมีอยู่จริง ซึ่งการอ่านนิทานก่อนนอนในช่วงเวลาเดียวกันในทุก ๆ วัน จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังวินัยการตรงต่อเวลาอีกด้วย

2. การอ่านนิทานเป็นการผจญภัยไปในสมอง: ทุกครั้งที่เด็กได้ฟังนิทานหรือได้อ่านด้วยตัวเอง เซลล์ประสาทจะแตกแขนงออกมาเป็นร่างแหของเส้นประสาท ดังนั้นใน 2 ขวบปีแรก สมองของเด็กจึงเปลี่ยนแปลงทุกวัน แม้ว่าหนังสือจะเป็นเล่มเดิม แต่การคิด การตีความ หรือการวาดภาพในสมองของเด็กจะต่างกันออกไป

3.การอ่านนิทานเป็นการผจญภัยไปในจิตใต้สำนึก: เพราะหนังสือนิทานมีหลากหลายเรื่องราว มีทั้งด้านดี สมหวัง สนุกสนาน สดชื่น แจ่มใส และบางเรื่องก็อาจแฝงด้านมืดมาเป็นข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ คุณพ่อคุณแม่อย่ากลัวที่จะหยิบยื่นเรื่องราวที่หลากหลาย เพราะการที่เด็กได้ฟังหรืออ่านนิทานเหล่านี้ก็เหมือนกับการระบายความรู้สึกในใจออกมา และยังให้แง่คิดในหลากหลายมุมที่จะเป็นส่วนหนึ่งให้เด็กซึมซับและเรียนรู้

นอกจากการอ่านนิทานให้ลูกฟัง การใส่ใจเรื่องการทานอาหารให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ และได้ออกกำลังกาย สามารถช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในอนาคตได้ ดังนั้น มาเสริมสร้างความปลอดภัย ด้วยประกันที่จะช่วยดูแลเจ้าตัวเล็กเคียงข้างคุณพ่อคุณแม่

AIA Health Happy Kids ประกันสุขภาพสำหรับเด็กที่คิดมาแล้วเพื่อทุกบ้าน

- หมดห่วงค่ารักษาพยาบาล แม้ลูกจะป่วยหนัก ด้วยวงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย*

- เบิ้ลความคุ้มครอง 2 เท่า รวม 4 ปีกรมธรรม์ เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง**

- ความรับผิดส่วนแรกต่อรอบปีกรมธรรม์ แนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีสวัสดิการบุตร และต้องการค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม

- สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 วัน - 10 ปีบริบูรณ์

 

สนใจทำประกัน AIA Health Happy Kids กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ

* ผลประโยชน์เหมาจ่ายบางรายการ

**โรคร้ายแรง หมายถึง โรคร้ายแรงตามคำนิยามของโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้บันทึกสลักหลัง ผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีโรคร้ายแรง มีดังนี้ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด, โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน, การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ, โรคมะเร็งระยะลุกลาม, การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก และการผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า

หมายเหตุ

- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

- ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ขอบคุณข้อมูล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

แบบฟอร์มการติดต่อ ถูกใจ 0

วิธีการติดต่อ
สนใจบทความนี้? ติดต่อกลับเพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

ข้อมูลที่จำเป็น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น

ข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ครบ 10 หลัก
อีเมล
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
รหัสประเทศ
กรูณากรอกข้อมุลรหัสประเทศให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
จังหวัด

ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เอไอเอ จำกัด และกลุ่มบริษัทเอไอเอ (เอไอเอ) สามารถเก็บใช้ข้อมูลที่ข้าพเจ้าให้ไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือกิจกรรมใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ หรือแจ้งสิทธิประโยชน์ แจ้งข้อมูลข่าวสารของเอไอเอ ติดต่อและนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ กรมธรรม์ ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนประกันชีวิต การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการเงิน (FA) หรือ AIA Life Advisor และใช้เพื่อประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล ความสนใจของข้าพเจ้าที่มีต่อการนำเสนอข้อมูลทางการตลาดเพื่อให้เอไอเอปรับปรุง และพัฒนาการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางการตลาด รวมถึงยินยอมให้เอไอเอส่งหรือโอนข้อมูลแก่พันธมิตรทางการค้า/คู่ค้า ตัวแทนประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันชีวิต (ถ้ามี) เพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกันข้างต้น
ฉันยืนยันว่าฉันได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ สามารถศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เว็บไซต์ของเอไอเอตามลิ้งค์ดังต่อไปนี้ www.aia.co.th/privacy และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ร้องขอใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (DPO) ผ่านเอไอเอคอลเซ็นเตอร์ โทร. 1581 หรืออีเมลมาที่ th.privacy@aia.com หรือติดต่อตามที่อยู่ที่ บริษัท เอไอเอ จำกัด 181 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพ 10500
ส่ง