
เมื่อใจบอกไม่ไหว ให้น้อง 'Pet Therapy' ฟูลฟีลให้ใจฟู
หลายคนไม่ว่าจะวัยไหน ล้วนต้องเจอกับสถานการณ์ที่ทำให้เราจิตตก อาจส่งผลให้เกิดอารมณ์เครียด เหงา เศร้า แต่ในขณะที่อารมณ์กำลังดิ่งวูบ พอได้ดูคลิปสุนัข แมว กระต่าย และอีกสารพัดสัตว์ตัวน้อย ๆ ในโมเมนต์น่ารักโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอมือถือนั้นก็รู้สึกดีขึ้น ทั้งยังปลุกความอ่อนโยน และความรู้สึกแง่บวกภายในตัวเรา
เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เราในหลายมิติ เสมือนเป็นวิตามินชั้นดีที่สามารถช่วยให้สบายใจ ถึงแม้สัตว์เหล่านั้นจะพูดไม่ได้แต่พวกเขาก็สามารถส่งผ่านความรักด้วยการกระทำและสายตาได้ อีกทั้ง สัตว์เหล่านี้ยังสามารถรับบทบาทสำคัญในการบำบัดความเครียด หรือที่เรียกกันว่า “Pet Therapy” ได้อีกด้วย
Pet Therapy คือ การใช้สัตว์เลี้ยงบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยหรือโรคที่เกี่ยวกับสภาพจิตใจ ซึ่งการรักษาโดยใช้สัตว์เลี้ยงบำบัดมีมายาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 โดยสัตว์ที่นิยมนำมาใช้ในการบำบัดส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว กระต่าย ช้าง ม้า เพราะมีความผูกพัน คุ้นเคย และสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้ดี
นอกจากนี้ สัตว์เหล่านี้ยังสามารถกระตุ้นการรับรู้ การสัมผัส เพิ่มสมาธิ เพิ่มความรู้สึกไว้ใจและแถมยังมอบความอบอุ่นให้กับเราได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยฟื้นฟูผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพไม่ว่าจะเป็น อัลไซเมอร์ โรคซึมเศร้า รวมถึงอาการป่วยอีกหลายอย่าง

สัตว์ยอดนิยมเหล่านี้ ช่วย Therapy ด้านใดบ้าง
- สุนัข มักถูกนำมาใช้บำบัดด้านจิตใจ ลดความเครียด ลดอาการซึมเศร้า แถมยังช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายในผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาตอีกด้วย
- แมว เสียงของน้องแมวนั้นมีความถี่ต่ำช่วยกระตุ้นระบบประสาทและช่วยให้รู้สึกคลายกังวล
- นก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายและลดความเครียด เนื่องจากนกนั้นมีทั้งความสวยงามและแสนรู้
- ม้า มักถูกนำมาใช้ในการบำบัดในเด็กออทิสติกหรือสมาธิสั้น การบำบัดด้วยม้าจะช่วยในเรื่องการควบคุมเคลื่อนไหวร่างกายและฝึกจิตใจให้สงบ
ซึ่งการนำ Pet Therapy หรือสัตว์เลี้ยงบำบัดมาใช้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับทางด้านสภาวะจิตใจ โดยคำนึงถึงความชอบในสัตว์ประเภทนั้น เช่น บางคนเป็นทาสแมวก็ไม่ควรเลี้ยงสุนัข บางคนกลัวสัตว์ปีกก็ไม่ควรเลี้ยงนก เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญต้องไม่ลืมว่าสัตว์เลี้ยงทุกชนิดก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่เหมือนกัน
ถึงแม้ว่า เอไอเอ จะยังไม่มีประกันสำหรับสัตว์เลี้ยง แต่การทำประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายไว้ ก็ช่วยให้เราเบาใจได้ เพราะหากเจ็บป่วยก็ไม่กลัวจะจ่ายค่ารักษาไม่ไหว แถมไม่รบกวนเงินที่เก็บไว้ดูแลน้องอีกด้วย
AIA Health Happy ประกันสุขภาพเหมาจ่าย แบบ เหมา เบิ้ล คุ้ม
ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 25 ล้านบาท เบิ้ลค่ารักษาเพิ่มเป็น 2 เท่า (1) เมื่อตรวจพบ 6 โรคร้ายแรงยอดฮิต(2) พร้อมยังสามารถรักษาแบบ OPD ได้สูงสุด 30 ครั้ง (เฉพาะแผน 25 ล้านบาท) เจ็บเล็กเจ็บใหญ่ก็สบายใจได้ด้วยวงเงินรักษาที่ครอบคลุม
(1) ผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย ในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคร้ายแรง ตามคำนิยามที่กำหนดในบันทึกสลักหลัง
(2) โรคร้ายแรง หมายถึง โรคร้ายแรงตามคำนิยามของโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้บันทึกสลักหลัง ผลประโยชน์ความคุ้มครองกรณีโรคร้ายแรง มีดังนี้ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack), โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke), การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery By-Pass Surgery), โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancer), การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก (Major Organs Transplantation or Bone Marrow Transplantation), และการผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า (Surgery to Aorta)
สนใจทำประกัน AIA Health Happy กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ
หมายเหตุ
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
- ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
ขอบคุณข้อมูล กรมสุขภาพจิต