
2024 กินเจทั้งทีสุขภาพดีต้องมา!
หลายคนเลือกกินเจเพราะเพื่อต้องการละเว้นการทานเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น แต่อย่าลืมว่า อาหารเจส่วนใหญ่นั้นเน้นแป้งและน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งหากเราบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป
อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ หากต้องการให้เกิดประโยชน์กับร่างกายอย่างแท้จริง เราอาจต้องใส่ใจในการเลือกรับประทานมากขึ้น
การกินเจ ตามหลักทั่วไปแล้วจะยึดถือกันเป็นระยะเวลา 9 วัน ซึ่งในปัจจุบันตามไลฟ์สไตล์ของบางคนอาจจะปฏิบัติเพียง 3 หรือ 5 วัน ตามความสะดวก แต่งกายด้วยชุดขาว ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และห้ามพูดคำหยาบ โกหก ส่อเสียด หรือพูดจาเพ้อเจ้อ
กินเจ ห้ามกินอะไรบ้าง?
• กินเจห้ามกินผักฉุนหรือผักที่มีกลิ่นแรง ได้แก่ กระเทียม หัวหอม (ต้นหอม, ใบหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย ใบยาสูบ (บุหรี่,ยาเส้น,ของเสพติดมึนเมา) งดสูบบุหรี่และกินเหล้าในช่วงที่ถือศีล กินเจ
• กินเจห้ามกินเนื้อสัตว์ หรืออาหารที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ หรือเป็นส่วนใด ส่วนหนึ่งจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นไขมันสัตว์ ไข่ และเลือด
• ห้ามกินอาหารรสจัด
• ห้ามกินอาหารที่คนปรุงไม่ได้ถือศีลกินเจ
• ถ้วยชามจะต้องไม่ปนกัน
• ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา ตลอดช่วงเวลา 9 วัน
กินเจ กินอะไรได้บ้าง?
• โปรตีน ได้แก่ ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ นมถั่วเหลือง เต้าหู้ขาว โปรตีนเกษตร
• คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว เส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ วุ้นเส้น เผือก ข้าวโพด พืชชนิดหัว และอาหารประเภทแป้ง
• วิตามินและเกลือแร่ ได้แก่ ผักและผลไม้ต่าง ๆ ยกเว้นบางชนิดที่จัดอยู่ในข้อต้องห้ามของอาหารเจ
• ไขมัน ได้แก่ น้ำมันพืช เนยเทียมและครีมเทียมที่ทำจากไขมันจากพืช
• เครื่องปรุงเจ สังเกตได้จากเครื่องหมายธงเจที่อยู่บนฉลากผลิตภัณฑ์ เลือกใช้ซอสเห็ดหอมหรือเกลือแทนซีอิ๊วขาว น้ำปลา
• ชา กาแฟ ที่ไม่ใส่นม เนย หรือครีมเทียม
• อาหาร ขนม เครื่องดื่ม ที่ไม่มีส่วนผสมของสัตว์

แล้วเราสามารถทานเจอย่างไรให้สุขภาพดี?
หลักการพื้นฐานในการกินเจให้ได้สุขภาพง่ายๆ คือ ต้องกินให้ครบ 5 หมู่ เนื่องจากร่างกายต้องการสารอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในอาหาร ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน กรดอะมิโน วิตามินและเกลือแร่ และ กินให้สมดุลกับร่างกาย เน้นผักผลไม้ เลี่ยงของทอด ของผัด
ควรเลือกทานให้เป็น ลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ เพราะอาหารเจมักจะปรับให้รสชาติมีความอร่อยขึ้น เพื่อให้ทานได้ง่าย โดยเฉพาะอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ผัดผักกาดดอง หัวไชโป๊ว กานาฉ่าย ฯลฯ ซึ่งจากสถิติคนไทยได้รับเกลือในปริมาณที่มากกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวันเกินเกือบ 2 เท่า
หากปรับพฤติกรรมการบริโภคโดยลดบริโภคโซเดียมลงเพียงเล็กน้อย ประมาณ 700-800 มิลลิกรัมต่อวัน ก็จะสามารถลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดลงได้ถึง 20% และลดอัตราตายได้ 5-7%
การถือศีลกินเจเป็นเรื่องที่ดี แต่เราก็ควรเลือกบริโภคให้ถูกหลักโภชนาการเพื่อป้องกันผลเสีย
ที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพได้ พร้อมเลือกทำประกันสุขภาพป้องกันโรคร้ายแรงอย่าง AIA Multi-Pay CI Plus ที่คุ้มครองโรคร้ายแรง ครอบคลุมทุกระดับการเจ็บป่วย รวมถึงการเจ็บป่วยรุนแรง และดูแลไปตลอดแม้ในยามฟื้นฟูร่างกาย (1)
✚ พลัสความคุ้ม
คุ้มครองสูงสุด 1,000% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย*
✚ พลัสความอุ่นใจโรคร้ายแรง
เคลมซ้ำได้สูงสุด 11 ครั้ง รวมสูงสุด 800% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย**
คุ้มครอง 62 โรคร้ายแรง ตรวจเจอโรคร้ายแรงระดับรุนแรงหยุดจ่ายเบี้ยฯ แต่ยังคุ้มครองต่อนานสูงสุดถึงอายุ 99 ปี
✚ พลัสเงินก้อนเมื่อป่วยวิกฤต
พลัสเงินก้อน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เมื่อเข้ารักษาตัวใน ICU ติดต่อกันอย่างน้อย 5 วัน แม้ไม่ได้เจ็บป่วยจากโรคร้ายแรง ***
✚ พลัสเงินดูแลรายเดือนต่อเนื่องสูงสุด 5 ปี
ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรือป่วยติดเตียง ก็มีเงินจ้างคนดูแล คุ้มครองเพิ่ม 8 โรคร้ายแรงสำคัญ (2) ที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิต รับเงินก้อนแรก 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย (ในเดือนแรก) และรับรายเดือน 1.5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย นานสูงสุด 60 เดือน กรณีเจ็บป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ตั้งแต่ 3 อย่างขึ้นไป จากการเจ็บป่วยด้วย 8 โรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิต****
สนใจทำประกัน AIA Multi-Pay CI Plus กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ