
ทำงานหนักแค่ไหน ต้องออกไปเที่ยวพักใจบ้างกับเทรนด์ Wellness Tourism
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ บางคนก็อยากหลีกหนีจากสังคมและชีวิตประจำวันอันแสนวุ่นวายและตึงเครียด ด้วยการสร้าง Work-life balance เพื่อหาความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัวเพื่อลดผลกระทบจากการแบกรับภาระหน้าที่การงานที่มากจนเกินไป ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดในการพักกายพักใจนั่นคือการหาเวลาดูแลตัวเอง
โดยการวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ (Health Security) ของทุกประเทศทั่วโลก ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health security) เป็นอันดับที่ 6 จากทั้งหมด 195 ประเทศ และเป็นอันดับ 1 ในเอเชียด้วยคะแนน 73.2 จาก 100 คะแนน
(ขอบคุณข้อมูล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.))
แม้ว่าความหมายของ Wellness Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะแตกต่างกันในรายละเอียดของแต่ละประเทศ แต่จะมีส่วนหลักที่คล้ายกัน คือ ‘คนที่มาเที่ยวไม่ได้ป่วย’ แต่เน้นการท่องเที่ยวแบบดูแลสุขภาพ ผ่านกิจกรรมหรือบริการที่สอดคล้องกับสุขภาวะทางร่างกายและจิตใจ ภายใต้พื้นฐานของความยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
แนวโน้มการเติบโตของ Wellness Tourism ปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยม เนื่องมาจาก 3 ปัจจัย
1. ตระหนักในโรคระบาด โรคระบาดทำให้คนตระหนักเรื่องความเจ็บป่วย และมองว่าเรื่องสุขภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัว ดังนั้น โปรแกรมการท่องเที่ยวต้องตอบโจทย์ตอบด้านสุขภาพอย่างชัดเจน
2. สังคมผู้สูงอายุ คนมีอายุยืนยาวมากขึ้นทำให้โลกกำลังกลายเป็นสังคมสูงวัยอย่างเต็มตัว ทั้งนี้ สิ่งที่นักท่องเที่ยวสูงอายุมองหา ได้แก่ การชะลอวัย บริการทางการแพทย์เพื่อชีวิตที่ยืนยาว และการพักผ่อนหย่อนใจ ฯลฯ
3. การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และโรคเครียด ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อการผ่อนคลายทางกายและเยียวยาความไม่สบายใจ เน้นการนำธรรมชาติมาบำบัด
โอกาสด้านธุรกิจของการท่องเที่ยวไทยกับ Wellness Tourism
- ด้านที่พัก ร่วมมือกับสถานพยาบาล คลินิก โรงพยาบาล ออกแบบบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อให้สามารถพักผ่อนร่วมกับการตรวจร่างกายประจำปี การดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพ
- ด้านร้านอาหาร เลือกใช้วัตถุดิบที่มาจากท้องถิ่น เป็นของดีต่อสุขภาพ จำพวกพืชผักสวนครัว ธัญพืช ผลไม้ เกษตรอินทรีย์ ที่มาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน
- ด้านวิถีชุมชน เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้าน สัมผัสประสบการณ์จริงของการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น ทดลองดำนา ไถนา เก็บไข่ไก่ เป็นต้น
- ด้านแพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทย เพื่อให้การท่องเที่ยวได้เข้าถึงกลิ่นอายของประเทศไทยมากขึ้น เช่น การนวดไทย ลูกประคบ สมุนไพรไทย บำรุงสุขภาพ รวมถึงมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่หาได้ในท้องถิ่น
ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นอกจากจะช่วยบำบัดรักษาและสร้างเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้สดใส ยังได้เปิดหูเปิดตาเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ด้วย ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเที่ยวที่ไหนการมีประกันอุบัติเหตุไว้ ก็จะช่วยให้ทริปของคุณปลอดภัย อุ่นใจขึ้นด้วย

แจกฟรี! ประกันกลุ่มจาก เอไอเอ ที่ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิต กรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 100,000 บาท นาน 1 ปี นับแต่วันที่อนุมัติให้สมาชิกผู้เอาประกันภัยเข้าร่วมการประกันภัย โดยผู้ขอเอาประกันภัยจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 - 50 ปี (จำกัด 1 สิทธิต่อ 1 ท่าน)
หมายเหตุ
- ผู้ขอเอาประกันภัยมีหน้าที่แถลงข้อความจริงในการขอเอาประกันภัย การปกปิดข้อความจริงหรือแถลงข้อความเป็นเท็จใด ๆ อาจเป็นเหตุให้บริษัทผู้รับประกันภัยบอกล้างสัญญาประกันภัยและปฏิเสธไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย
- ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาและทำความเข้าใจในเอกสารเสนอขายก่อนตัดสินใจทำประกันภัย เมื่อได้รับกรมธรรม์และ/หรือหนังสือรับรองการประกันภัยกลุ่มแล้ว โปรดศึกษารายละเอียด ข้อกำหนดและเงื่อนไขในกรมธรรม์และ/หรือหนังสือรับรองการประกันภัยกลุ่ม
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยและ/หรือหนังสือรับรองการประกันภัยกลุ่มที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์และ/หรือผู้เอาประกันภัย
รวบรวมข้อมูลโดย เอไอเอ ประเทศไทย