ประวัติศาสตร์ประกันภัย 101

ประวัติศาสตร์ประกันภัย 101

กว่าจะมาเป็นประกันสุขภาพที่ทำกันในวันนี้ !

ในปัจจุบันเราต่างรู้ถึงประโยชน์ของการทำประกันภัยกันอย่างกว้างขวาง ว่าสามารถช่วยแบ่งเบาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ โดยหลักการพื้นฐานของการประกันภัยคือ ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันภัย และบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้เอาประกันภัยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ 

แต่ทราบหรือไม่? ว่าประกันภัยที่เราทำกันอยู่ในทุกวันนี้มีวิวัฒนาการมาจากไหน เริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ และเราจะต้องเลือกทำประกันภัยอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด ในบทความนี้มัดรวมทุกคำตอบมาให้เรียบร้อย!

แนวคิดเรื่องการประกันภัยเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดพบในพระคัมภีร์ไบเบิล เล่มปฐมกาล บทที่ 41 กล่าวถึงการตีความของโจเซฟเกี่ยวกับความฝันของฟาโรห์ ว่าอียิปต์จะมีพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์เป็นเวลา 7 ปี และหลังจากนั้นจะแห้งแล้ง ประชาชนจะอดอยากเป็นเวลา 7 ปี จึงได้แนะนำให้เก็บสะสมพืชพันธุ์ธัญญาหารไว้ ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของการประกันภัยแบบสะสมทรัพย์ 

แต่การประกันภัยเริ่มมีการพัฒนาอย่างจริงจังเมื่อ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช จากธุรกิจค้าขายทางทะเล เนื่องจากการค้าขายทางทะเลมีความเสี่ยงสูง เช่น เรืออับปาง สินค้าเสียหายระหว่างการเดินทาง ทำให้มีการประกันภัยเกิดขึ้น โดยพ่อค้าจะกระจายสินค้าไปไว้ในเรือหลาย ๆ ลำ เผื่อว่าถ้าเรือบางลำเกิดอุบัติเหตุ ก็จะลดความเสียหายลงไปได้ 

ถัดมาในศตวรรษที่ 13 ได้เกิดสัญญาประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลฉบับแรกของโลกขึ้น โดยเจ้าของเรือหรือพ่อค้าที่ซื้อประกันภัย จะต้องทำบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินที่บรรทุกลงเรือ และจะมีนายธนาคารหรือบุคคลที่ประสงค์จะรับประกันภัย ลงชื่อใต้รายการเหล่านั้น พร้อมระบุจำนวนเงินที่จะรับความเสี่ยง ต่อมาได้ขยายการประกันภัยออกไป คุ้มครองถึงการเสียชีวิตของนายเรือและลูกเรือ รวมถึงพ่อค้าที่คุมสินค้าไปกับเรือ ตลอดจนคุ้มครองจำนวนเงินที่เป็นค่าไถ่ตัวเมื่อถูกโจรสลัดจับตัวไปด้วย

การประกันภัยได้พัฒนามาขึ้นเรื่อย ๆ จนในช่วงศตวรรษที่ 20 บริษัทประกันภัยเริ่มเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยเกี่ยวกับสุขภาพให้กับผู้เอาประกันภัย เพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา เป็นต้น

ซึ่งการประกันภัยเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อมีพ่อค้าชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาติดต่อทำการค้าขาย และได้นำเอาระบบการประกันภัยทางทะเล และการขนส่งเข้ามาด้วย จนได้พัฒนามาเรื่อย ๆ และกลายเป็นประกันภัยสุขภาพอย่างจริงจังในสมัยรัชกาลที่ 5 รวมถึงมีการก่อตั้งบริษัทประกันภัยแห่งแรกขึ้น

พัฒนาการของประกันสุขภาพนั้นมีมาอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 5 ยุคหลัก ๆ ได้ดังนี้

ยุคที่ 1 : ต้องเสียชีวิตก่อนถึงได้รับเงินผลประโยชน์

เพราะในสมัยก่อนยังไม่มีนวัตกรรมการรักษาที่ครอบคลุม และครบครันพอ บริษัทประกันจึงเน้นความคุ้มครองเมื่อเสียชีวิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ยุคที่ 2 : ประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิต 

ในสมัยก่อนนวัตกรรมทางการแพทย์ และการรักษาโรคต่าง ๆ ยังไม่ได้พัฒนามากเช่นในปัจจุบัน ดังนั้นแม้จะมีประกันสุขภาพเพิ่มเข้ามาจากประกันชีวิต จึงไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องการรักษามากนัก จึงถือว่าไม่คุ้มค่าสักเท่าไหร่

ยุคที่ 3 : ประกันสุขภาพแบบแยกประเภท

เมื่อนวัตกรรมทางการแพทย์มีความก้าวหน้าขึ้น ทำให้ประกันสุขภาพมีวิวัฒนาการกลายมาเป็นประกันสุขภาพแบบแยกประเภท ซึ่งจะมีการกำหนดค่าใช้จ่าย และวงเงินที่ชัดเจนภายใต้กรมธรรม์ แต่ปัญหาคือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดมักสูงกว่าค่าใช้จ่ายที่กรมธรรม์กำหนดไว้ จึงไม่ครอบคลุม และตอบโจทย์ประกันคุ้มครองสุขภาพมากนัก

ยุคที่ 4 : ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย

เรียกได้ว่าเป็นพัฒนาการของประกันสุขภาพแบบก้าวกระโดด เพราะเมื่อกรมธรรม์เป็นประกันแบบ “เหมาจ่าย” นั่นหมายความว่า บริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ภายใต้วงเงินความคุ้มครองสูงสุดของกรมธรรม์นั้น ๆ ซึ่งมีความคุ้มค่า และครอบคลุมอย่างมาก

ยุคที่ 5 : ประกันแบบ Absolute care 

ประกันประเภทนี้ คือประกันโรคร้ายแรงที่จะครอบคลุมไปถึงการดูแลต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่การจ่ายเงินก้อนเมื่อตรวจเจอโรคร้ายแรง แล้วจบ แต่มีความคุ้มครองที่กว้างขึ้น เช่น ครอบคลุมการเป็นโรคร้ายแรงซ้ำ ครอบคลุมการเจ็บป่วยในภาวะวิกฤต ครอบคลุมการดูแลต่อเนื่องจากโรคร้ายแรง อย่าง AIA Multi-Pay CI Plus “ประกันโรคร้าย เจอ จ่าย หลายจบ ครบถึงการดูแล” ที่คุ้มครองโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในยามเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง

ขอแนะนำ AIA Multi-Pay CI Plus* “ประกันโรคร้าย เจอ จ่าย หลายจบ ครบถึงการดูแล” ที่ให้คุณ

● ได้รับผลประโยชน์สูงสุด 800% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย1 หากตรวจโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง ได้รับความคุ้มครอง 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงสุดถึง 5 ครั้ง แต่หากตรวจพบโรคร้ายแรงระดับรุนแรง ได้รับความคุ้มครอง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงสุด 6 ครั้ง2

● หมดกังวลด้วยการจ่ายผลประโยชน์ซ้ำ3 หากตรวจพบโรคร้ายแรง4 ซ้ำอีกครั้ง

● สบายใจด้วยผลประโยชน์ภาวะวิกฤตที่มีผลต่อการดำรงชีวิต5 รับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย**

● ได้รับผลประโยชน์การดูแลต่อเนื่องจากโรคร้ายแรง รับผลประโยชน์จ่ายครั้งเดียว 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และผลประโยชน์จ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ 1.5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ติดต่อกันรวมทั้งหมด 60 เดือน รวม 90% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

● รวมผลประโยชน์สูงสุดทั้งหมด 1,000% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

เพราะไม่มีใครรู้ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกอะไรกับชีวิตเราเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นการวางแผนสำรองให้กับชีวิตด้วยการทำประกันโรคร้ายแรงอย่าง AIA Multi-Pay CI Plus* เพื่อให้ได้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมทุกระดับการเจ็บป่วย ทั้งการเจ็บป่วยรุนแรงทั้งจากโรคร้ายแรงและที่ไม่ใช่โรคร้ายแรง รวมถึงโรคอุบัติใหม่ และดูแลไปตลอดแม้ในยามที่เข้าสู่ภาวะฟื้นฟูร่างกาย โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และไม่ทิ้งให้เป็นภาระของคนที่คุณรักด้วย 

สนใจสมัคร AIA Multi-Pay CI Plus* กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบประกันที่เหมาะกับคุณ

* AIA Multi-Pay CI Plus (เอไอเอ มัลติเพย์ ซีไอ พลัส) เป็นชื่อทางการตลาดของสัญญาเพิ่มเติม AIA Multi-Pay CI (เอไอเอ มัลติเพย์ ซีไอ) คู่กับสัญญาเพิ่มเติม AIA Total Care (เอไอเอ โทเทิล แคร์)

** จ่ายครั้งเดียวตลอดอายุสัญญา

1 กรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยและหรือยืนยันจากแพทย์ว่า เจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง และหรือโรคร้ายแรงระดับรุนแรงตั้งแต่ 2 โรคขึ้นไป จากสาเหตุและหรือเหตุการณ์เดียวกัน บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้สัญญาเพิ่มเติมนี้สูงที่สุดเพียง 1 โรคเท่านั้น และให้รวมถึงกรณีดังต่อไปนี้ 

● กรณีที่ 1 ผลการวินิจฉัย “โรคมะเร็งระยะลุกลาม” และ “โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม” ระบุว่า เกิดขึ้นที่อวัยวะเดียวกัน ข้างเดียวกัน และได้รับการรักษาหรือผ่าตัดในครั้งเดียวกัน 

● กรณีที่ 2 การบาดเจ็บ “แผลไหมฉกรรจ์” และ “แผลไหมชนิดรุนแรงน้อย” ที่เกิดจากอุบัติเหตุครั้งเดียวกัน 

● กรณีที่ 3 การเจ็บป่วยเป็น “โรคน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองซึ่งเกิดภายหลังและต้องใส่ท่อระบาย” และ “การผ่าตัดฝังท่อระบายในโพรงสมอง” ซึ่งเป็นการรักษาครั้งเดียวกัน 

● กรณีที่ 4 “การสูญเสียแขนหรือขาหนึ่งข้างหรือตาหนึ่งข้าง” และต่อมาผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยว่าเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงระดับรุนแรงดังต่อไปนี้ “อัมพาตของกล้ามเนื้อ แขนหรือขา” หรือ “การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ” หรือ “การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง” หรือ “ตาบอด” โดยโรคร้ายแรงระดับรุนแรง ดังกล่าวเกิดจากสาเหตุเดียวกันกับ “การสูญเสียแขนหรือขาหนึ่งข้างหรือตาหนึ่งข้าง” ทั้งนี้ จะถือว่าการจ่ายผลประโยชน์ใน 4 กรณีนี้เป็นการจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรงระดับรุนแรงในแต่ละกรณีเท่านั้น

2 บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคร้ายแรงระดับรุนแรงสำหรับ "ภาวะอะแพลลิก" หรือ "การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ" หรือ "การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง" เฉพาะกรณีที่เป็นการจ่ายผลประโยชน์นี้ครั้งแรก หรือ ที่ผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยและหรือยืนยันจากแพทย์เป็นครั้งแรกในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงดังกล่าวได้เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ

3 การจ่ายผลประโยชน์ Relapsed CI แต่ละครั้งจะถูกนับและใช้สิทธิภายใต้จำนวนครั้งสูงสุด (6 ครั้ง) และจะไม่นำระยะเวลาห้ามเคลม (No claim period) มาพิจารณา

4 สำหรับ 3 โรคร้ายแรงระดับรุนแรง ได้แก่ โรคมะเร็งระยะลุกลาม กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน

5 ผลประโยชน์ภาวะวิกฤตที่มีผลต่อการดำรงชีวิต MIB : Major Impact Benefit คุ้มครองการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในห้องพักผู้ป่วยในวิกฤต (ICU) ของโรงพยาบาล เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 วันติดต่อกัน อันเนื่องมาจากสาเหตุหรือการรักษาการเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ 1) การผ่าตัดใหญ่ 2) การใช้เครื่องช่วยหายใจแบบสอดท่อหรือเจาะคอ ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขของผลประโยชน์ภาวะวิกฤตที่มีผลต่อการดำรงชีวิต 3) ภาวะล้มเหลวของอวัยวะที่สำคัญ ได้แก่ หัวใจ ปอด ตับ ไต หรือ ตับอ่อน

6 CCB : Continuing Care Benefit คุ้มครอง 8 โรคที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองอย่างถาวรตั้งแต่ 3 อย่างขึ้นไป ได้แก่ โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์, โรคพาร์กินสัน, โรคของเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว, โรคกล้ามเนื้อเสื่อม, ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง, การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง, การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ และการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง

4 รับผลประโยชน์ที่จ่ายครั้งเดียว 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และ ผลประโยชน์ที่จ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ 1.5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ติดต่อกันรวมทั้งหมด 60 เดือน รวม 90% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย รวมเป็นผลประโยชน์ทั้งหมด 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

หมายเหตุ

- ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง 

- ผู้ขอเอาประกันภัยมีหน้าที่แถลงข้อความจริงในการขอเอาประกันภัย การปกปิดข้อความจริงหรือแถลงข้อความเป็นเท็จใด ๆ อาจเป็นเหตุให้บริษัทผู้รับประกันภัย บอกล้างสัญญาประกันภัยและปฏิเสธไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย 

- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

แบบฟอร์มการติดต่อ ถูกใจ 0

วิธีการติดต่อ
สนใจบทความนี้? ติดต่อกลับเพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

ข้อมูลที่จำเป็น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
ชื่อเต็มของคุณ
กรุณากรอกข้อมูลนามสกุลให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น
กรุณากรอกข้อมูลชื่อให้ถูกต้อง
โปรดระบุชื่อหรือนามสกุลเป็นตัวอักษรเท่านั้น

ข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ครบ 10 หลัก
อีเมล
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
รหัสประเทศ
กรูณากรอกข้อมุลรหัสประเทศให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ให้ถูกต้อง
กรุณากรอกข้อมูลอีเมลให้ถูกต้อง
จังหวัด

ข้าพเจ้ายินยอมให้บริษัท เอไอเอ จำกัด และกลุ่มบริษัทเอไอเอ (เอไอเอ) สามารถเก็บใช้ข้อมูลที่ข้าพเจ้าให้ไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือกิจกรรมใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ หรือแจ้งสิทธิประโยชน์ แจ้งข้อมูลข่าวสารของเอไอเอ ติดต่อและนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ กรมธรรม์ ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนประกันชีวิต การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการเงิน (FA) หรือ AIA Life Advisor และใช้เพื่อประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล ความสนใจของข้าพเจ้าที่มีต่อการนำเสนอข้อมูลทางการตลาดเพื่อให้เอไอเอปรับปรุง และพัฒนาการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ และข้อมูลทางการตลาด รวมถึงยินยอมให้เอไอเอส่งหรือโอนข้อมูลแก่พันธมิตรทางการค้า/คู่ค้า ตัวแทนประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันชีวิต (ถ้ามี) เพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกันข้างต้น
ฉันยืนยันว่าฉันได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ สามารถศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เว็บไซต์ของเอไอเอตามลิ้งค์ดังต่อไปนี้ www.aia.co.th/privacy และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ร้องขอใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท (DPO) ผ่านเอไอเอคอลเซ็นเตอร์ โทร. 1581 หรืออีเมลมาที่ th.privacy@aia.com หรือติดต่อตามที่อยู่ที่ บริษัท เอไอเอ จำกัด 181 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพ 10500
ส่ง