
3 เหตุผลที่ควรทำประกันให้ลูก
สำหรับคุณพ่อคุณแม่หรือคนที่กำลังวางแผนจะมีลูก หลายครอบครัวอาจกำลังคิดเรื่องประกันเพื่อคุ้มครองลูก เนื่องจากมีความกังวลใจทั้งในแง่ของสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตของลูก แต่ในขณะเดียวกันก็มีความคิดว่าเมื่อทำไปแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ เพราะคุณพ่อคุณแม่ต่างก็มั่นใจในการดูแลลูกของตัวเองให้ปลอดภัยและมีสุขภาพดีได้ ถ้าไม่ได้ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลหรือบาดเจ็บก็กลัวว่าจะต้องจ่ายประกันไปแบบสูญเปล่า แต่เหล่าคุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว การทำประกันให้ลูกนั้นจะได้อะไรมากกว่าที่คิด กับ 3 เหตุผลที่พ่อแม่ควรทำประกันให้ลูกรัก
1. เพราะเด็กเล็กไม่สามารถสื่อสารได้ จึงควรคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ยิ่งในเด็กแรกเกิดจนถึงช่วงวัยก่อนเข้าโรงเรียน บางครั้งลูกเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา มีอาการปวดหัว ปวดท้อง เด็กจะไม่สามารถสื่อสารกับพ่อแม่ เพื่อบอกถึงความเจ็บปวดของอาการป่วยนั้นได้ ทำได้เพียงเปล่งเสียงร้องไห้ออกมาและอาจจะมีการแสดงออกผ่านท่าทางทางกายภาพ ทำให้ยากต่อการคาดเดา ส่งผลให้คุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกไปตรวจและวินิจฉัยอาการที่โรงพยาบาล ซึ่งอาการเล็กน้อยเหล่านี้ อาจจะไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่สูงมากต่อครั้งแต่ก็มักจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉลี่ยแล้วใน 1 ปีจะต้องมีการเข้าโรงพยาบาล 2-3 ครั้ง หากเป็นผู้ป่วยนอกค่าใช้จ่ายต่อครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 1,200 - 3,000 บาท หรือหากต้องนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทแล้วแต่โรคหรืออาการ
2. เด็กเล็กถ้ามีอาการป่วยหนัก จะต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน
โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เชื้อโรคหรือไวรัส มีการพัฒนาความรุนแรงและระบาดเร็วมากขึ้น ทำให้เมื่อลูกรักมีอาการป่วยหนัก มักจะมีอาการที่รุนแรง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างน้อย 3-7 วัน เพราะในวันแรกต้องเริ่มสังเกตอาการและเริ่มเก็บผลการรักษาเพื่อนำไปวินิจฉัย วันที่สองเริ่มให้ยาและสังเกตการตอบสนองการรักษา ถ้าอาการดีขึ้นในวันที่สามแพทย์จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ในบางโรคที่ต้องมีการรักษาแบบประคับประคองอาการ เช่น โรคปอดติดเชื้อ ต้องมีการสังเกตอาการนานหลายวัน ค่าใช้จ่ายจึงสูงตามไปด้วย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาเด็กเล็กในโรงพยาบาลเอกชนอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 20,000 บาท ซึ่งอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูง
3. ร่างกายเด็กมีความบอบบาง ติดเชื้อง่ายและมีโอกาสเป็นซ้ำ
เพราะภูมิคุ้มกันเด็กยังไม่แข็งแรง เนื่องจากอยู่ในช่วงวัยที่กำลังมีการพัฒนา จึงสามารถติดเชื้อได้ง่าย เมื่อติดแล้วก็มีโอกาสที่จะเป็นซ้ำได้ และในครั้งที่สองอาจจะมีความรุนแรงมากกว่าครั้งแรก จึงต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาการรุนแรงขึ้นค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
จะเห็นได้ว่าการมีประกันสุขภาพสำหรับลูกรักจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะลูกอาจไม่ได้อยู่ในความดูแลของพ่อแม่ตลอดเวลา ทำให้มีโอกาสติดมาจากเพื่อนที่โรงเรียนได้ ดังนั้นพ่อแม่จึงควรมีตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของลูกรักอย่าง AIA H&S EXTRA ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่คลายความกังวลได้
AIA H&S EXTRA เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่คุณพ่อคุณแม่สามารถซื้อคู่กับประกันสุขภาพหลักได้ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาได้อย่างรอบด้านมากขึ้น
- ค่าห้อง ค่าอาหาร แผนสูงสุด 6,500 บาทต่อวัน
- ค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการสูงสุด 120,000 บาท
- ค่ารักษาในโรงพยาบาล ได้แก่ ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่าพยาบาล สูงสุด 40,000 บาท ต่อการรักษาเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุดถึง 9,000 บาท ต่อปี
- ผลประโยชน์เงินคืนพิเศษสูงสุด 4,500 บาท ต่อปี (กรณีไม่มีประวัติเคลมภายในรอบปี)
- อายุรับประกัน 1 เดือน – 75 ปี ต่ออายุได้จนถึง 85 ปี
*ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ประกันภัยและเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
*ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือ
กรมธรรม์
*ข้อมูลนี้เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น ค่าใช้จ่ายจริงอาจมีความแตกต่างจากนี้