
อยากรวยต้องอดออมหรือลงทุน?
คำถามที่คนรุ่นใหม่กำลังต้องการคำตอบ “วิธีไหนที่ทำให้รวยมากกว่ากันระหว่าง อดออม หรือลงทุน” เพราะในยุคปัจจุบันทุกคนล้วนแล้วแต่อยากมีชีวิตที่สุขสบายมีเงินใช้จ่ายในชีวิต เพราะเศรษฐกิจที่ซบเซา ค่าครองชีพที่สูงขึ้น คนรุ่นใหม่จึงต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบาก
การออม คือการสะสมเงินโดยเน้นการรักษาเงินต้นเป็นหลักและแทบไม่มีโอกาสเลยที่เงินต้นจะหายไป
การลงทุน คือการนำเงินไปซื้อทรัพย์สินใดทรัพย์สินหนึ่ง เพื่อหาผลตอบแทนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม มุ่งเน้นไปที่ผลกำไร
เปรียบเทียบให้ชัดระหว่างการลงทุนและอดออม
ลองจินตนาการว่าในหนึ่งวันคุณสามารถหาเงินได้ 100 บาท แล้วนำเงินจำนวนนี้ไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 20% คุณก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นเป็น 120 บาท แล้วต้องใช้จ่ายแต่ละวัน 60 บาท คุณจะเหลือเงินอีก 60 บาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการออมคือ 50% แต่การลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 20% นั้นมีโอกาสน้อยมากและการคาดหวังผลตอบแทนที่สูง ต้องทำใจยอมรับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย
แต่หากคุณเป็นคนประหยัดอดออม จากปกติคุณใช้จ่ายวันละ 60 บาท คุณจะเหลือเงิน 40 บาท เมื่อคุณประหยัดมากขึ้นโดยใช้จ่ายเพียงวันละ 50 บาท สัดส่วนการออมเงินของคุณก็จะเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 50% ซึ่งสัดส่วนการออม 50% นี้เท่ากันกับการลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ แต่การประหยัดนั้นแทบไม่มีความเสี่ยงเพราะเป็นสิ่งที่คุณสามารถควบคุมเองได้
อย่างไรก็ตามการเดินทางสายกลางน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด เพราะขึ้นชื่อว่าการลงทุนไม่ว่าอย่างไรก็ย่อมมีเงินทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง หากลงทุนน้อยโอกาสเติบโตก็จะน้อย การอดออมแบบกลางๆ จะช่วยทำให้ไม่เครียดจนเกินไป
และจะดีไม่น้อยหากการลงทุนนั้นมาพร้อมความคุ้มครองชีวิตของคุณ เอไอเอ สมาร์ท เวลท์ (ยูนิต ลิงค์) ชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียวได้ความคุ้มครองชีวิตถึงอายุ 99 ปี มีโอกาสในการเติบโตของเงินทุนผ่านกองทุนรวมที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี โดยไม่มีการหักค่าดำเนินการประกันภัยและคุ้มครองชีวิตสูงถึง 150% ไม่ว่าการลงทุนจะเป็นบวกหรือลบ
สุดท้ายตัวเราเท่านั้นที่จะเป็นผู้เลือกและตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับว่าชอบและถนัดแบบไหน ไม่ว่าจะลงทุนหรืออดออมก็ดีต่อตัวเราเองทั้งสิ้น
*ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
*ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
*ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงศึกษา อ่าน และทำความเข้าใจในเอกสารประกอบการเสนอขาย และหนังสือชี้ชวนของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน