HOW TO ปรับพฤติกรรมให้ลูกถนัดขวา
คนถนัดซ้ายถือเป็นกลุ่มน้อยมาโดยตลอดเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด สังเกตได้จากสิ่งของและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มักจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคนถนัดขวาเพียงอย่างเดียว เช่น โต๊ะเลคเชอร์ในห้องเรียน เมาส์ หรือแม้แต่สิ่งพื้นฐานที่สุดอย่างรูปแบบการเขียนจากซ้ายไปขวาที่ทำให้ไม่ว่าจะเขียนยังไงคนถนัดซ้ายก็ต้องคอยมือเปื้อนหมึกอยู่เรื่อยไป
แน่นอนว่าทุกวันนี้การถนัดซ้ายไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมอีกต่อไปแล้ว และเป็นเพียงเรื่องของความถนัดตามธรรมชาติเฉพาะบุคคล เป็นกระบวนการทำงานของสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อและระบบประสาทสัมผัสที่แตกต่างกัน
โดยคนที่ถนัดขวาจะมีการทำงานควบคุมทักษะกล้ามเนื้อโดยสมองซีกซ้าย ส่วนคนที่ถนัดซ้ายก็จะมีการทำงานควบคุมกล้ามเนื้อของสมองซีกขวา ซึ่งไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใด
อีกทั้งสมองซีกขวายังทำหน้าที่ในส่วนของการจิตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ การมองภาพ ความจำ ความรู้สึกที่มีต่องานศิลปะ ความมีสุนทรียะด้านดนตรี เสียงเพลง ทำให้บ่อยครั้งเราจะสังเกตุเห็นได้ว่าคนที่ถนัดซ้ายมักมีความจำดี และมีจินตนาการที่เป็นเลิศ และมีความโดดเด่นทางด้านศิลปะ หรือศาสตร์ด้านใดด้านหนึ่ง
โดยในปัจจุบันมีบุคคลถนัดซ้ายจำนวนมากมานที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงระดับโลก เช่น Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลก หรือ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ก็ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งของและอุปกรณ์ต่าง ๆ แม้กระทั่งในปัจจุบันเองก็ยังคงถูกออกแบบมาโดยอ้างอิงตามการใช้งานของคนถนัดขวาเป็นหลัก ดังนั้นแล้วสำหรับพ่อแม่ที่มีความกังวลและต้องการฝึกฝนให้ลูกใช้มือขวาเป็นข้างที่ถนัดก็สามารถทำได้ ดังนี้
ช่วงอายุ 1-3 ปี
ในช่วงอายุ 1-3 ปี เด็กโดยทั่วไปจะเริ่มแสดงให้เห็นว่าถนัดมือข้างไหน โดยสังเกตได้จากการที่ลูกมักจะใช้มือข้างนั้นในการหยิบจับของเล่น จับช้อนทานข้าว หลังจากที่ในช่วงอายุ 0-1 ปี เด็กจะใช้มือทั้งสองข้างเท่า ๆ กัน
ช่วงอายุ 3 ปี ขึ้นไป
ตั้งแต่ช่วงอายุ 3 ปี ขึ้นไป เด็กจะเริ่มแสดงให้เห็นถึงมือหรือเท้าข้างที่ถนัดชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไม่แนะนำให้มีการปรับเปลี่ยนอีกแล้ว และควรปล่อยไปให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะการปรับเปลี่ยนอาจส่งผลต่อพัฒนาการของกล้ามเนื้อและส่วนต่าง ๆ รวมทั้งอารมณ์ และพฤติกรรมอื่น ๆ ของลูกก็เป็นได้
แต่ไม่ว่าลูกน้อยของคุณจะถนัดแบบไหน เอไอเอ ก็เชื่อในความสามารถที่แตกต่าง และพร้อมสนับสนุนทุกการเติบโตด้วย AIA Issara Plus (Unit Linked) พร้อมสัญญาเพิ่มเติม AIA Health Happy - UDR
ประกันชีวิตควบการลงทุน และประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย* ที่ช่วยสร้างหลักประกันให้อนาคตให้กับลูกน้อยอย่างมั่นคง พร้อมความคุ้มครองด้านสุขภาพ
สนใจสมัครประกันสำหรับเด็ก กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ
*ผลประโยชน์เหมาจ่ายในบางรายการ เมื่อรวมผลประโยชน์หมวดที่ 1-13 ความคุ้มครองและค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (ถ้ามี) ต้องไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ และไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดในแต่ละหมวด
หมายเหตุ :
- ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
- บริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับค่าการประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ ชั้นอาชีพ ประสบการณ์การจ่ายสินไหมทดแทนของบริษัท เป็นต้น สำหรับสัญญาเพิ่มเติมกลุ่มค่ารักษาพยาบาล อาจมีปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น หรือจากประสบการณ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน
คำเตือน :
• การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนรวมภายใต้กรมธรรม์เอไอเอยูนิต ลิงค์ (aia.co.th)
• ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
• การทำประกันชีวิตแบบยูนิต ลิงค์ ไม่ใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยง ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงศึกษา อ่าน และทำความเข้าใจในเอกสารประกอบการเสนอขายและหนังสือชี้ชวนของกองทุน ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยและลงทุน
